Forums

Forums (http://www.rottourthai.com/index.php)
-   รีวิวการเดินทาง โดยรถโดยสารประจำทาง ( รถทัวร์ ) (http://www.rottourthai.com/forumdisplay.php?f=6)
-   -   First Trip in Myanmar by Rapipat (http://www.rottourthai.com/showthread.php?t=15618)

nikorn 04-18-2014 09:29 AM

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ rapipat (210514 กระทู้)
ผ้าเย็นจะแจกทุกครั้งก่อนลงรถไปทานข้าวครับ รถเที่ยวนี้ไม่มีห้องน้ำน่ะครับ รถจะจอด 3 ครั้งครับ แวะกินข้าวเย็น หนึ่งทุ่มครับ กินข้าวต้มตอนเที่ยงคืน และล้างหน้าตอนตีห้าครึ่งอีกครั้งครับ ต้องลงรถน่ะครับ เพราะว่ารถจะดับเครื่อง ซึ่งอาหารแต่ละที่ต้องจ่ายเองทั้งนั้น



วิธีหล่อเย็นผ้าเบรคแบบพม่าครับ เอาน้ำฉีดเลยครับ


เล่นระบายความร้อนกันแบบนี้เลยหรอ

ผู้เฒ่าเต่า 04-18-2014 06:17 PM

แหม! คิดถึงสมัย ตะลุย หลวงพระบาง จริงเลย
ลาว มีแล้ว พม่า มีแล้ว ต่อไป จะมีใคร ตะลุย กัมพูชาบ้างหนอ...

rapipat 04-19-2014 08:59 PM

ได้คอมกลับมาคืนแล้วครับ จริงๆการไปเที่ยวที่พม่านั้น ชาวต่างชาตจะถูกเก็บค่าเข้าชมเมืองละ 15 US$ ครับ แต่ว่ารอบนี้ผมพูดภาษาพม่า และมีเพื่อนพม่าไปด้วยครับ เลยรอดตัวไป fightfight ว่าแล้วมาต่อกันเลยครับ:emo_toon24::emo_toon24:

ที่แรกที่จะพาไปเที่ยวเป็น เจดีย์ชเวสิกองครับ เจดีย์แห่งนี้เป็น ๑ ใน ๕ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่า ถือว่าก่อนสิ้นชีวิต ต้องไหว้ให้ครบทั้ง ๕ แห่ง ครับ ได้แก่
๑.เจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ถ้าไปพม่าพูกคำว่า ชเว เขาจะงง คำจริงๆ อ่านว่า ชเว = ชุย แปลว่าทองครับ
๒.เจดีย์ชเวสิกอง เมืองพุกาม
๓.เจดีย์ไจท์ทิโย หรือ พระธาตุอินแขวน รัฐมอญ
๔.เจดีย์ชเวมอดอ หรือ พระธาตุมุเตา เมืองหงสาวดี พม่าเรียก หานตะวดี
๕.พระมหามุนี เมืองมัณฑะเลย์ หรือ พระมหาเมียยะมุนี ตามภาษาพม่าครับ
:):)




rapipat 04-19-2014 09:40 PM

มาเที่ยวกันต่อเลยครับ เริ่มที่วิหารอโลดอเปี๊ยะ (Ahlodawpyae Temple) แปลว่าสมปรารถนาอย่างเต็มที่ มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่ สามารถขอพรได้ รู้กันว่าสมปรารถนากันมานักต่อนัก โดยผู้ขอต้องตั้งนะโม ๓ จบ และตั้งใจรักษาศีล ๕ แล้วจึงขอพรได้ ๑ ข้อ พรข้อนั้นจะสมปรารถนาอย่างง่ายดาย สร้างสมัยพระเจ้าจันสิตตา เดิมทีไม่มีพระพุทธรูป ต่อมาท่านอูวิน ซึ่งเป็นพระเถระที่ชาวพุกามเคารพนับถือมาก ได้นำพระพุทธรูปมาประดิษฐานในภายหลัง ซึ่งต่อมาได้ปรากฎว่าพระพุทธรูปองค์นี้ ศักดิ์สิทธิ์มาก ชาวพม่าจะมากราบไหว้ขอพรกันเป็นนิจ แม้แต่ชาวไทยที่ไป ก็นิยมไปกราบไหว้ขอพร และสมปรารถนาในพรนั้นมากมายหลายท่าน



วิหารธรรมยางจีครับ วิหารธรรมยันจี (DHAMMAYANGYI) เป็นวิหารที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้านระธู(Narathu) เพื่อล้างบาปจากการทำปิตุฆาต คือฆ่าบิดา (การฆ่าบิดา มารดา นั้นถือว่าเป็นอนันตกิริยกรรม คือ เป็นกรรมหนักจะต้องตกนรกอเวจี) เพราะพระองค์เกิดความปริวิตกว่าบาปจากกระทำปิตุฆาตนั ้นใหญ่หลวงและจะติดตามพระองค์ไปในชาติภพหน้า วิหารแห่งนี้ยิ่งใหญ่แต่มีที่มาจากตำนานอันโหดร้ายแล ะเสมือนเป็นตัวแทนของตำนานความโหดร้ายผิดบาปที่เล่าข านต่อกันมาจนปัจจุบัน



วิหารจุฬามณี (Sulamani Temple ) สร้างโดยพระเจ้านรปติสิธู ว่ากันว่าพระองค์ทรงสุบินนิมิตเห็นพระจุฬามณีเจดียสถ านบนสวรรค์ จึงมาสร้างวิหารเพื่อปรารถนาจะให้ผู้คนขึ้นสวรรค์กัน มาก ๆ บ้างก็ว่าพระองค์สุบินเห็นแสงสว่างเหมือนมีแก้วมณีตร งที่ดินบริเวณนั้น จึงสร้างเจดีย์ครอบตรงนั้นไว้ สถาปัตยกรรมมีส่วนผสมของวิหารสัพพัญญูและวิหารธรรมยา นจี





เจดีย์บูพยา (Bupaya Pagoda ) สร้างโดยพระเจ้าพยูซอที เป็นเจดีย์รูปน้ำเต้า อยู่ริมแม่น้ำอิรวดี เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก



วิหารกะเด๊าะปะลิน (Gawdawpalin Temple ) สร้างโดยพระเจ้านรปติสิธู (Narapatisithu - နရပတိစည်သူ - นะระปติ๊ซีตู) เพื่อขอขมาเสด็จปู่ คือพระเจ้าอลองสิธู ตรงทางเดินเข้าขวามือ มีพระพุทธรูปสมปรารถนา อธิษฐานอะไรได้ศักดิ์สิทธิ์



เจดีย์โลกนันทะ (Lawkananda Pagoda ) สร้างโดยพระเจ้าอโนรธา บรรจุพระเขี้ยวแล้วจำลองเหมือนเจดีย์ชเวสิกอง รูปทรงคล้ายเจดีย์บูพยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิรวดี ว่ากันว่าความรุ่งเรืองของการค้าในอาณาจักรพุกามในสม ัยนั้น พ่อค้าต่างแคว้น ทั้งมอญ ยะไข่ และแม้กระทั่งเมืองลังกา จะนำเรือล่องมาค้าขายในพุกามกันมากมาย สีทองอร่ามของเจดีย์โลกนันทะ จะเป็นจุดหมายของพ่อค้าว่าถึงพุกามแล้ว



ภาพวาดเตรียมไว้ขายให้นักท่องเที่ยว ทำกันแถวๆเจดีย์ ก็ขายกันแถวนั้นเลยครับ



พิพิธภัณฑ์พุกาม แสดงสิ่งล้ำค่า ผังเมืองจำลอง พุกามครับ



rapipat 04-19-2014 09:47 PM

มาต่อกันที่ วัดมนูหะ (Manuha Temple) เป็นวัดที่พระเจ้ามนูหะ (Manuha –มนูฮา) กษัตริย์มอญที่พ่ายแพ้แก่พระเจ้าอโนรธา และถูกนำมาที่พุกาม เป็นผู้สร้าง ภายในมีพระพุทธรูป ๓ องค์ ที่สร้างใหญ่เต็มพื้นที่ สะท้อนให้เห็นถึงความอึดอัดที่มาอยู่ในมือพม่า พระองค์สร้างวัดนี้เพื่อหวังพ้นวัฎฎะสงสาร จะได้ไม่ต้องพ่ายแพ้แก่ผู้ใดอีก



อึดอัดมากครับ



วิหารอานันทะ (Ananda Temple อานันดาพยา) เป็นเจดีย์ที่สวยที่สุด มีลวดลายปูนปั้นงามที่สุด สร้างโดยพระเจ้าจันสิตตา ภายในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประทับยืน ๔ องค์ ทิศเหนือแทนพระกกุธสันโธพุทธเจ้า ทิศตะวันออกแทนพระโกนาคมพุทธเจ้า ทิศใต้แทนพระกัสสปะพุทธเจ้า และทิศตะวันออกแทนพระโคตมะพุทธเจ้า แต่เสียหายครั้งแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๘ เสีย ๒ องค์ คือองค์ทางทิศตะวันออกและตะวันตก และถูกบูรณะขึ้นใหม่ รูปทรงจึงออกไปทางพม่ายุคใหม่ ไม่เหมือนอีก ๒ องค์ที่ไม่เสียหาย ที่ทรงเป็นแบบพุกามแท้ ๆ มีพิเศษคือพระพุทธรูปองค์ทางทิศใต้ ที่เมื่อเรายืนห่างองค์พระจะเห็นพระพักตร์ท่านยิ้ม และเมื่อเข้าไปใกล้พระพักตร์จะเปลี่ยนเป็นบึ้ง นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นพระเจ้าจันสิตตา และท่านชินอรหันต์ พระอรหันต์องค์ต้นที่นำพระพุทธศาสนามายังพุกาม และประดิษฐานอย่างมั่นคง





เจดีย์ชเวสันดอ (Shwesandaw Pagoda) สร้างโดยพระเจ้าอโนรธามหาราช ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และเนื่องจากมีความสูง และมีชานเป็นระเบียงถึง ๕ ชั้น จึงมีผู้มาชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นกันเนืองแน่น ซึงผมได้ภาพทะเลเจดีย์ได้ไม่สวยครับ เพราะร้อนมากๆ


rapipat 04-19-2014 09:56 PM

มาเดินทางกันต่อครับ ไปต่อกันที่มัณฑะเลย์ Mandalay ครับ วันนี้เดินทางไปกับรถบัสประจำทาง มิตซูบิชิครับ 45 ที่นั่งครับ จอดทุกจุดที่โบกครับ ระยะทางเกือบ 300 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมงครับ

มาเที่ยวพุกามต้องขึ้นรถม้าน่ะครับ ได้บรรยากาศมากๆครับ



มิตซูบิชิครับ พวงมาลัยขวา ขับขวาด้วยครับ



ด้านข้างครับ



ท้ายครับ ฝาปิดเครื่องทึบครับ ไม่เหมือนบ้านเรา



มุมบังคับ ครับ



เป็นรถแอร์น่ะครับ แต่ว่าหน้าต่างเปิดได้ เผื่อแอร์เสียครับ



ตั๋วครับ ภาษาพม่าล้วน คนพม่าเก่งภาษาอังกฤษ เฉพาะตามตัวเมืองครับ พอออกตามหมู่บ้านก็หายากเหมือนกันครับ ค่าตั๋วราคาคนละ 5500 kyat ครับ ผมพูดภาษาพม่าครับ เลยได้ราคานี้



มีน้ำแจกขวดเดียวครับ ขนมไม่มี เดี๋ยวก็พาจอดกินข้าวเที่ยวครับ



ระหว่างทางมีคนพาช้างมาเรี่ยไรทำบุญครับ


rapipat 04-19-2014 10:13 PM

พอมาถึงมัณฑะเลย์ ก็ไม่ได้ถ่ายรูป บขส.ไว้ครับ เนื่องจากถูกแท็กซี่ แย่งชิงตัวจึงต้องรีบหนีครับ ว่าแล้วมาต่อกันเลยครับ ที่เมืองสกาย เมืองหลวงเก่าของรัฐฉานครับ มีเจดีย์เยอะเหมือนพุกามครับ แต่ว่ายุคใหม่กว่าครับ ข้ามมาฝั่งนี้ก็ 15 USS$ น่ะครับ แต่ผมไม่ได้เสีย:emo_toon06::emo_toon06:

ถ่ายจากฝั่งแม่น้ำอิระวดี พม่าเรียก เอยาวดี ไปสู่เมืองสกาย มลฑล สกายครับ



สะพานข้ามแม่น้ำอิระวดีครับ ยาวมาก อังกฤษ สร้างให้ครับ



เราไปเจดีย์มินกุงก่อนครับ คนส่วนใหญ่นั่งเรือไปครับ แต่เราขับมอเตอร์ไซค์ไป ไกลมากๆ เจดีย์มิงกุน สร้างโดยพระเจ้าปดุง ด้วยภายหลังทรงเคลื่อนทัพไปตียะไข่ แล้วสามารถชะลอพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์ เป็นผลสำเร็จ จึงทรงฮึกเหิมที่จะกระทำการใหญ่ขึ้นและยากขึ้น ด้วยการทำสงครามแผ่ขยายไปรอบด้าน พร้อมกับเกณฑ์แรงงานข้าทาสจำนวนมากก่อสร้างเจดีย์มิง กุนหรือเจดีย์จักรพรรดิ เพื่อประดิษฐานพระทันตธาตุที่ได้จากพระเจ้ากรุงจีนโด ยทรงมุ่งหวังให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในสมัยพุก าม และใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในสยาม ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในสุวรรณภูม ิ ส่งผลให้ข้าทาสชาวยะไข่หรืออาระกันจำนวน 50,000 คนหลบหนีการขดขี่แรงงานไปอยู่ในเขตเบงกอล เป็นดินแดนในอาณัติของอังกฤษ แล้วทำการซ่องสุมกำลังเป็นกองโจร ลอบโจมตีกองทัพพม่าอยู่เนืองๆโดยพม่ากล่าวหาว่าอังกฤ ษหนุนหลังกลายเป็นฉนวนให้เกิดสงครามอังกฤษ-พม่า อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พม่าเสียเมืองในที่สุด



ระฆังมิงกุน ไม่ไกลจากฐานเจดีย์มิงกุนคือระฆังมิงกุน ที่พระเจ้าปดุงโปรดฯให้สร้างโดยสำเร็จ เพื่ออุทิศทวายแด่มหาเจดีย์มิงกุน จึงต้องมีขนาดใหญ่คู่ควรกัน คือเป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร น้ำหนัก 87 ตัน เล่าขานกันว่า พระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบ จึงรับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ ปัจจุบันถือเป็นระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่าระฆังแห่ งหนึ่งแห่งพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโกเพียงใบเดียวท ว่าระฆังเครมลินแตกร้าวไปแล้ว ชาวพม่าจึงภาคภูมิใจว่าระฆังมิงกุนเป็นระฆังยักษ์ที่ ยังคงส่งเสียงก้องกังวาน



เจดีย์ชินพิวมิน (เมียะเต็งดาน) ประดิษฐานอยู่เหนือระฆังมิงกุนไม่ไกล ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่สวยสง่ามากแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2359 โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเท วีชินพิวมิน ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร จึงได้รับสมญานามว่า “ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี” เจดีย์องค์นี้เป็นพุทธศิลป์ที่สร้างขึ้นด้วยหลักภูมิ จักรวาลคือมีองค์เจดีย์สถิตอยู่ตรงกลาง ณ ยอดเขาพระสุเมรุ อันเชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางและโลกและจักรวาล ล้อมรอบด้วยขุนเขาและมหาสมุทรตามหลักไตรภูม



จากนั้นเราก็ขับรถกลับไปที่สกายฮิลล์ครับ ไหวพระกันครับ



วิวเมืองสกายครับ


rapipat 04-19-2014 10:24 PM

จากนั้นเราก็ข้ามฝั่งไปเมืองอังวะต่อครับ ราชธานีเก่า ครับ

ซึ่งขากลับนั้นผมเลือกกลับสะพานรถไฟครับ



จากนั้นเราก็นั่้งเรือข้ามคลองไปกรุงอังวะครับ



ชาวต่างชาติเยอะแยะครับ



เราก็ไปชมเจดีย์เก่าครับ ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว fightfight



เดินทางต่อไปที่วัดครับ วัดนนี้ยังมีพระอยู่ครับ สร้างตั้งแต่กรุงอังวะเป็นราชธานีครับ สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังครับ





เดินทางต่อด้วยรถไม้ครับ กระแทกดีครับ



ชมหอเมืองอังวะครับ ซึ่งเอนเหมือนหอเอนเมืองปิซ่าแล้วครับ





ส่วนวัดนี้สร้างสมัยมัณฑะเลย์แล้วครับ แต่ว่ามาอยู่ฝั่งเมืองอังวะ เป็นศิลปะแบบช่างไทยครับ


rapipat 04-19-2014 10:34 PM

สะพานข้ามแม่น้ำอิระวดี ระหว่าง มณฑลสกาย และมณฑลมันดาเลย์ครับ



เช้าอีกวันหนึ่งเราไปต่อที่ พระราชวังมัณฑะเลย์ครับ ค่าเข้าชม 15 US$ ผมเจอคนลำปางมาเที่ยวที่นี้แหละครับ



พระเจ้ามินดุง ทรงย้ายราชธานีจากอมรปุระ มาที่มัณฑะเลย์ครับ



ภาพวาดพระราชวังครับ



ถ่ายภาพจากหอคอยประจำเมืองครับ



กำแพงพระราชวังมัณฑะเลย์ครับ



หลังจากนั้นเราก็เดินทางไปต่อที่ มัณฑะเลย์ฮิลล์ครับ ไหว้พระก่อนชมวิวครับ



วิวเมืองมัณฑะเลย์ครับ



พอลงจากเขเสร็จก็ไปต่อที่ วัดชเวนันดอร์ ครับ ซึ่งเป็นวิหารเก่าตั้งแต่สมัยมัณฑะเลย์ เป็นราชธานี เนื่องจากพระราชวังถูกถล่มด้วยระเบิดสมัยสงครามโลกคร ับ ชเวนันดอร์นั้น แกะสลักไม้สักทองได้งดงามากครับ







และมีวัดอยู่ใกล้ๆทำด้วยปูนซึ่งบูรณะขึ้นใหม่ครับ


rapipat 04-19-2014 10:36 PM

ตกเย็นมาเราก็ไปทานอาหารที่ร้าน โก้ คิทเช่น เป็นอาหารไทยครับ อร่อยมากๆ โดยเฉพาะลาบครับ มาที่นี้ก็เจอทัวร์จากอีสานครับ หนีกันไม่พ้นfightfight



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:29 PM

Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2025, Jelsoft Enterprises Ltd.