เตือนภัยสังคม!! มีผู้แอบอ้างเป็นลูกเจ้าของบ.สมบัติทัวร์ และลิกไนท์ทัวร์ หลอกเอาเงิน
 

เตือนให้ระวังกันนะคะ นายคนนี้ชื่อธีรสิทธิ์ ทับมรินทร์ ชื่อเล่น เอ็ม หรือ เอส เป็นคนสมุทรสงคราม ชอบแอบอ้างเป็นลูกเจ้าของบ.สมบัติทัวร์ และลิกไนท์ทัวร์ นายคนนี้จะมีความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องรถทัวร์เป็นอย่างดี เคยหลอกพาเหยื่อไปที่บ.สมบัติทัวร์ วิภาวดี และขนส่งหมอชิต และชอบยืมรถเก๋งที่มีโลห์กรมขนส่งจากคนที่ทำงานในหมอ ชิตมาใช้ให้เหยื่อเห็น แล้วออกอุบายขอยืมเงิน หรือให้รูดบัตรเครดิต มีผู้หลงเชื่อสูญเงินมาแล้ว ตามไปดูที่เฟซบุคนี้นะคะ
http://www.facebook.com/yingkwanathan

หลักฐานการแอบอ้าง ตามชื่อในใบเสร็จค่ะ
 

หลักฐานแอบอ้างกับร้านโทรศัพท์ โดยใช้ชื่อบ.สมบัติทัวร์ตามชื่อในใบเสร็จค่ะ

เล่าเพิ่มเติม
 

มาเล่าต่อนะคะ นายธีรสิทธิ์ คนนี้ชอบแต่งเรื่องโกหก เพื่อหลอกเอาเงินคนอื่นแบบเป็นเรื่องเป็นราว มักแอบอ้างว่าตนเองเป็นลูกเจ้าของ และเป็นรอง Ceo ของบริษัทสมบัติทัวร์ และลิกไนท์ทัวร์ (อ้างว่าแม่ชื่อคุณจันทร์เพ็ญ แตงจุ้ย) และมีบริษัทอื่นในเครือเดียวกัน คือ ทรัพย์ไพศาล, นครศรีร่มเย็น, ปิยะรุ่งเรือง, ศรีสยาม, สยามเดินรถ ตัวเองจะมีหน้าที่ทำตารางเดินรถ ช่วยลูกน้องปล่อยรถทัวร์ ออกแบบรถทัวร์ ติดต่อบริษัท scania เพื่อซื้อตัวช่วงล่างรถ เพื่อมำประกอบรถใหม่

แต่เดิมทีครอบครัวทางแม่ คือตาทำรถบริษัททรัพย์ไพศาล ส่วนครอบครัวทางพ่อทำบริษัทสมบัติทัวร์ นอกจากนี้พ่อยังมีธุรกิจทำเรือประมง ออกเรือจับปลาถึงน่านน้ำอินโดนีเซีย แต่พ่อถูกลูกน้องพม่าฆ่าตายบนเรือตอนตัวเองยังเด็ก ทำให้เป็นลูกกำพร้า เมื่อพ่อตายแม่จึงดูแลธุรกิจรถทัวร์ต่อจากพ่อ โดยต่อมาแม่ได้ไปซื้อสายรถเพิ่มมาอีกเรื่อยๆ จนมีบริษัทในเครือหลายบริษัท ตัวเองยังเคยนั่งรถไปกับแม่เพื่อไปเจรจาขอซื้อสายรถจ ากผู้ประกอบการรายย่อย และแม่เองเคยโดนลอบยิงเนื่องจากแม่ได้เข้าไปถือหุ้นใ นบริษัทรถทัวร์บริษัทหนึ่ง ต่อมาแม่บีบบังคับให้หุ้นส่วนขายหุ้นส่วนที่เหลือ จึงทำให้เจ้าของเดิมเกิดความไม่พอใจ

รูปนี้เป็นตารางรถปลอมที่นายธีรสิทธิ์เขียนขึ้นเพื่อ ลวงเหยื่อค่ะ

เล่าเพิ่มเติมค่ะ
 

ตัวละครที่นายคนนี้แต่งขึ้นอาจจะมีตัวตนอยู่จริง หรืออาจจะไม่มีนะคะ แค่อยากจะมาเล่าให้ผู้ที่รู้จักกับนายคนนี้ คอยระวังตัวไว้ อย่าหลงตกเป็นเหยื่อค่ะ นายคนนี้มีนิสัยชอบโกหก สร้างเรื่องปั้นน้ำเป็นตัวเก่งเหมือนนาธาน เล่นละครตบตาเก่ง ชอบอวดรวย และโลภ อยากได้ของคนอื่น พยายามแต่งเรื่องหลอกลวงคนอื่น ให้เชื่อว่าตัวเองเป็นลูกเจ้าของบริษัทรถทัวร์จริง แล้วจะหลอกเอาเงินคนที่หลงเชื่อ โดยไม่คืนแล้วก็จะหนีไป

นายธีรสิทธิ์มักจะเล่าให้คนอื่นฟังว่าหลังจากพ่อตาย แม่ได้สามีใหม่ ชื่อโกวิท เป็นตำรวจ แม่ได้พาโกวิท มาทำงานเป็นผู้บริหารในบริษัทสมบัติทัวร์ที่พ่อได้สร ้างเอาไว้ นายธีรสิทธิ์จึงไม่พอใจที่แม่ทำแบบนี้ เพราะกลัวว่าพ่อเลี้ยงจะมาหลอกเอาสมบัติที่พ่อได้สร้ างเอาไว้ ทางย่าเองซึ่งอยู่ที่แม่กลอง สมุทรสงครามก็ไม่พอใจแม่ นายธีรสิทธิ์จะเกลียดพ่อเลี้ยงคนนี้มาก ไม่เคยเรียกนายโกวิทว่าพ่อ แต่จะเรียกว่า “ลุง” ตัวเองจะคุยกับโกวิท เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็จะไม่คุยด้วย ซึ่งทางนายโกวิทเองก็มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว

นายธีรสิทธิ์อ้างว่าเมื่อไม่นานนี้แม่ได้ซื้อคอนโดห้ องเพนท์เฮาส์ ที่คอนโดวินท์ ใกล้แยกรัชโยธิน ชั้น 37 ซึ่งเป็นห้องใหญ่ 2 ชั้นขนาด 5 ห้องนอน โดยใช้ชื่อบริษัท ลิกไนท์ทัวร์ ซื้อในราคา 16 ล้านบาท เพื่อที่จะพาครอบครัวนายโกวิท มาอยู่ด้วย นายธีรสิทธิ์อ้างว่านายโกวิทเองเมื่อเข้ามาบริหารงาน ในสมบัติทัวร์ ก็ช่วยปลดหนี้ให้บริษัทส่วนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีหนี้กว่า 600 ล้านบาท แม่เคยประกาศในงานเลี้ยงงานงานหนึ่งว่าอีก 10 ปีจะวางมือจากกิจการรถทัวร์ นายธีรสิทธิ์จึงบอกกับแม่ว่าหากจะให้ตัวเองรับช่วงกิ จการรถทัวร์จากแม่ แม่จะต้องปลดหนี้บริษัทให้หมดก่อน เมื่อช่วงเดือนเมษายน หรือพฤษภาคมที่ผ่านมา นายธีรสิทธิ์อ้างว่า แม่ได้ไปซื้อสายรถกรุงเทพ-เขื่อนภูมิพล จากผู้ประกอบการเดิม มาแล้วจะยกให้นายธีรสิทธิ์เป็นเจ้าของดูแล

บางวันนายธีรสิทธิ์อ้างว่า เข้าไปช่วยแม่ทำงานที่ออฟฟิสสมบัติทัวร์ บางวันก็อ้างว่าอยู่สายใต้ บางวันก็อยู่อู่ใหญ่ลิกไนท์ทัวร์ นครชัยศรี และมักโชว์สเตตัสในเฟซบุคของตัวเองว่าอยู่ตามสถานที่ ดังกล่าว

เล่าต่อค่ะ
 

เพื่อให้เหยื่อมองเห็นฐานะ ชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเอง นายธีรสิทธิ์ ก็จะแต่งเรื่องขึ้น โดยมีตัวละครต่างๆ หลายตัวดังนี้นะคะ

1. คุณจันทร์เพ็ญ แตงจุ้ย หรือ เธอเรียกว่า "นายแม่" ซึ่งเป็นแม่ของเธอ อายุ สี่สิบกว่าปี เป็นเจ้าของบริษัทลิกไนท์ทัวร์ และสมบัติทัวร์ และบริษัทรถทัวร์อื่นๆในเครือรวม 6 บริษัท ดังรูปรถทัวร์ที่โชว์ในเฟซบุคของเธอนะคะ เธออ้างว่าแม่เธอเป็นเศรษฐีนีมีทรัพย์สินกว่า 2,000 ล้านบาท เป็นเศรษฐีอันดับ 80 กว่าของประเทศ แม่มีรถส่วนตัวเป็นโตโยต้า อัลพาร์ด คันละ 4 ล้าน เป็นรถผู้บริหารติดฟิล์มกันกระสุน เพราะแม่เคยโดนลอบยิง จากการขัดแย้งทางธุรกิจ เพราะแม่เธอเข้าไปบีบบังคับให้เจ้าของรถทัวร์บริษัทอ ื่นขายรถ และขายสายรถให้แม่ของเธอ

2. คุณธีรสิทธิ์ ทับมรินทร์ หรือ “นายน้อย” เธออ้างว่าบรรดาลูกน้องในสายใต้ หมอชิต หรือบริษัทสมบัติทัวร์ จะเรียกเธอว่า “นายน้อย” เธอเป็นลูกชายคนโตของนายแม่ ทำงานเป็นรอง CEO ของบริษัทฯ งานที่เธอต้องทำคือเขียนตารางการเดินรถ ช่วยลูกน้องปล่อยรถทัวร์ ช่วยแม่เรื่องการจัดซื้อรถทัวร์ใหม่ ออกแบบรถทัวร์ เธอจะได้รับเงินเดือนจากแม่เดือนละ 70,000 บาท แม่มักมอบหมายให้เธอไปประชุมที่ขนส่งต่างจังหวัดบ่อย ๆ บางทีก็บินไปประชุมภูเก็ต บางทีก็ไปประชุมขนส่งระยอง

‎3. น้องสาวของเธอ ชื่อ”โมเอ้” เป็นนางแบบ ค่าตัวตั้งแต่หลักหมื่นและหลักแสน บางทีได้รับการติดต่อให้ไปถ่ายแบบและเดินแบบที่สิงคโ ปร์ น้องสาวยังเรียนอยู่คณะเภสัช ม.รังสิต ค่าเทอมเทอมละล้านว่าบาท และน้องสาวมีร้านเสื้อผ้าที่ยูเนี่ยนมอลล์ น้องสาวขับรถบีเอ็มซีรีย์ 3 สีขาว ราคาสี่ล้าน เป็นรถที่น้องสาวดาวน์เอง แต่ตอนหลังน้องสาวผ่อนเองไม่ไหว เลยเอารถให้แม่ใช้และแม่ผ่อนต่อ แม่ขอให้เธอเป็นคนไปดูรถคันใหม่ให้น้องสาว เพราะเธอเป็นคนเล่นรถ เธอจะรู้เรื่องรถรุ่นต่างๆดี (เรื่องจริงโมเอ้ จริงๆชื่อมังคุดเป็นเพื่อที่เรียน ปวช. ส่วนรถ BMW ก็เป็นของแฟนมังคุด)

4. เจ๊บ๊วย เป็นเลขาส่วนตัวของแม่เธอ เจ๊บ๊วย อายุ 60 กว่าปีแล้ว แต่ยังทำงานอยู่ที่สายใต้ ได้รับเงินเดือนจากแม่ เดือนละแสนกว่าบาท เดิมเป็นคนเก็บขยะที่มาของานแม่ทำ จากตำแหน่งแม่บ้านไต่เต้าหลายสิบปี จนมาเป็นเลขาของแม่

5. นายสมพร พ่อของเธอ พ่อจบมหาวิทยาลัยจากญี่ปุ่น เดิมทีพ่อทำอาชีพเจ้าของเรือประมง จะมีเรือประมงที่ออกไปจับปลาที่น่านน้ำอินโดนีเซียทั ้งหมด 4 ลำ เรือจะเข้าฝั่งมีรายได้ครั้งละหลายล้านบาท ต่อมาพ่อซื้อกิจการรถทัวร์มาทำด้วย แต่พ่อเธอเสียชีวิตตอนเธออายุ 8 ขวบ เพราะโดนลูกน้องแรงงานพม่าฆ่าตายบนเรือ ทำให้เธอต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า

‎6. ย่า เป็นคนมีฐานะในย่านบางจะเกร็ง สมุทรสงคราม ย่าจะไม่ชอบเธอ เพราะเธอเคยฟ้องร้องย่าเพื่อเรียกร้องทองคำของพ่อหนั กกว่า 200 บาทที่ย่าเก็บไว้ เพื่อจะนำทองมาขาย แล้วเอาเงินมาช่วยแม่จ่ายหนี้ที่เกิดจากเรือ ขณะนั้นเธอและน้องสาวยังเด็กต้องตระเวนเอาทองใส่ถาดไ ปตระเวนขายร้านทองในแม่กลอง ได้เงินมาช่วยปลดหนี้ให้แม่ (ถ้าไม่เชื่อ เธอบอกให้ลองไปถามคนในแม่กลองได้ แต่มีคนยืนยันว่าเรื่องจริงคือ เธอไปขโมยทองย่าของเธอเพื่อที่จะมาเสพยา ย่าเลยตัดหางปล่อยวัดค่ะ รอวันหลานจะปรับปรุงตัวแต่ก้อไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอยั งคงเป็นแบบเดิมต่อไป

7. ยาย ยายอยู่ที่แม่กลอง ทำขนมไทยขายส่งไปขายที่ลอนดอน ที่ร้านของอาม่า เป็นน้องของย่า ซึ่งมีร้านอาหารไทยที่ลอนดอน โดยให้ลุกน้องสายใต้มารับขนมที่แม่กลอง แล้วนำขนมไปส่งที่สุวรรณภูมิ รายได้จากการขายขนมครั้งละ สามถึงสี่หมื่นบาท (เรื่องจริงคือยายทำขนมขายค่ะแต่ขายแถวบ้านค่ะ)

‎8. ทรัพย์สินของเธอที่มี นอกจากรถทัวร์กว่า 300 คัน แล้วทรัพย์สินอื่น ได้แก่ คอนโดห้องเพนท์เฮ้าส์ ที่คอนโดวินด์ มูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท เป็นคอนโดมี 5 ห้องนอน, มีคอนโดที่รัชดาภิเษก ให้ฝรั่งเช่าเดือนละสอง สามหมื่น, มีที่ดินที่กระบี่ ให้โลตัสเช่าทำห้าง แม่ทำตึกเลี้ยงนกนางแอ่น, มีที่ดินริมหาดให้ฝรั่งเช่าทำโรงแรม เป็นโรงแรมของตระกูลปารีส ฮิลตัน, มีบ่อเลี้ยงหอยแครงที่พ่อยกให้เธอ 60 กว่าไร่ที่บางจะเกร็ง สมุทรสงคราม รายได้จากการเก็บหอยสามเดือนครั้ง ครั้งละล้านบาท, เธอเองมีรถยนต์สามคัน คือ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์, มาสด้า, และเชฟ แคปทิว่า

9. พ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงเธอชื่อ โกวิท เป็นตำรวจ แม่เอาโกวิทมาช่วยทำงานในบริษัทสมบัติทัวร์ เธอจะเกลียดพ่อเลี้ยงคนนี้มาก เธอบอกว่าพ่อเลี้ยงจะมาหลอกเอาสมบัติของแม่เธอ การที่แม่เธอมีสามีใหม่และพาพ่อเลี้ยงมาทำงานในบริษั ทที่พ่อเธอได้สร้างเอาไว้ ทำให้เธอเกลียดแม่ของเธอมาก ทางย่าเองก็ไม่พอใจที่แม่เธอทำแบบนี้ เธอถึงขนาดพูดกับแม่ว่า มีแม่แบบนี้ เธอเองยอมขอเกิดเป็นลูกขอทาน ดีกว่า

‎10. แฟนเก่า ชื่อพี่กล้า ทำร้านอาหารอยู่ในแม่กลอง พี่กล้าคบกับเธอมา 8 ปี ถึงขนาดแม่เธอลงทุนจัดงานแต่งงานให้เธอกับพี่กล้า ที่อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี หมดค่าจัดงานกว่า 10 ล้านบาท ไม่รวมรถยนต์ที่ซื้อให้แฟน มีลงข่าวและรูปงานแต่งงานของเธอในหนังสือ Hiso Party เดือน พ.ย 2554 แต่ช่วงเดือนก.พ. 2555 ที่ผ่านมา แฟนเธอมาบอกเลิก ทำให้เธอรับไม่ได้ เสียผู้เสียคน งานการก็ไม่ทำ คิดสั้นกินยาล้างห้องน้ำ และต้องบินหนีไปเที่ยวเกาหลี ใช้เงินที่เก็บในบัญชีหมดไปแปดแสนบาท ตอนนี้พี่กล้าขอเซ้งที่จากเธอขายตั้งร้านขายของในตลา ดอัมพวา หนึ่งแสน แต่ตอนนี้ยังไม่ให้เงินเธอเลย

11. แม่นก เป็นคนที่เลี้ยงเธอตอนเด็ก ในชุมชนภักดี สลัมหลังขนส่งหมอชิต เธอเล่าว่าแม่แท้ๆไม่มีเวลาเลี้ยงเธอ เลยเอามาฝากแม่นกเลี้ยง แม่นกเคยทำงานให้แม่ของเธอ แม่เลยไว้ใจให้แม่นกเลี้ยง เธอโตมากับเฟิร์นลูกของแม่นก เป็นเพื่อนอายุไล่เลี่ยกัน การที่เคยถูกเลี้ยงมาในสลัม ทำให้เธอไม่ได้เป็นลูกคุณหนูเหมือนที่หลายคนเข้าใจ (เรื่องจริงคือแม่นก เป็นแม่ของเพื่อนที่เรียนปวช.มาด้วยกันค่ะไม่มีเกี่ย วโยงถึงมันเลยแม้แต่น้อย)

ใบเสร็จ
 

อันนี้เป็นใบเสร็จต่างๆ ที่นายธีรสิทธิ์หลอกให้เหยื่อเป็นคนจ่ายเงิน แล้วตัวเองก็จะทำเป็นเซ็นหลังใบเสร็จ เพื่อจะนำไปเบิกเงินกับบริษัท มีทั้งเบิกจาก สมบัติทัวร์ และลิกไนท์ทัวร์

แอบอ้างในเฟซบุ๊ค
 

อันนี้เป็นเฟซบุคของนายธีรสิทธิ์ที่แอบอ้างต่อคนภายน อก ว่าเป็นเฟซบุคของบริษัทสมบัติทัวร์ และสามารถสอบถามตนเองเกี่ยวกับตารางการเดินรถได้

โฉมหน้านายธีรสิทธิ์
 

หน้าตาเป็นแบบนี้ จดจำและระวังนะคะ ถ้าเห็นเดินไปมาอยู่แถวสมบัติทัวร์ วิภาวดี หรือหมอชิต คงจะกำลังหลอกเหยื่ออยู่

ค่ะ
 

ถ้าใครได้รู้จักตัวตนนายคนนี้ จะรู้ว่าเป็นคนที่น่ากลัวมากค่ะ แต่งเรื่องหลอกลวงได้เก่งมาก ทุกสิ่งทุกอย่างใกล้ตัว สามารถนำมาประติดประต่อ สร้างเรื่องโกหกได้แนบเนียนมาก บรรดาเพื่อนของนายคนนี้เองก็โดนหลอกรวมกันเกือบแสน และมีคนอื่นอีกที่โดน เท่าที่รู้รวมๆมากกว่าสองแสนแล้ว ทราบมาว่านายคนนี้เป็นสมาชิกเวบนี้ด้วย (ใช้ชื่อ Teerasit Tubmarin) คงจะมาแฝงตัวหาข้อมูลเกี่ยวกับรถทัวร์จากเวบนี้ แล้วนำไปหลอกคนอื่นค่ะ นายคนนี้จะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องรถทัวร์ รถทัวร์มีกี่บริษัท มาตรฐานรถมีกี่ประเภท รถธรรมดา, รถ 15 เมตร บริษัทไหนรับประกอบรถบ้าง บริษัทไหนรับทำเบาะ เบาะธรรมดา เบาะไฟฟ้า เบาะรังไหม อะไรทำนองนี้ เรื่องสายรถทัวร์มีกี่สายจะรู้หมด

ข้อมูลการสมัครเป็นสมาชิกเวบรถทัวร์ไทย

รถติดโลห์กรมการขนส่ง
 

สำหรับรถเก๋งที่ติดโลห์กรมขนส่งทางบกหน้ารถ ลักษณะเป็นรูปปีกนก ซึ่งนายธีรสิทธิ์นำมาขับเพื่อลวงเหยื่อ อ้างว่าเป็นรถของบริษัท ซึ่งเดิมผู้จัดการสายรถทัวร์กรุงเทพ-กระบี่ ได้ใช้อยู่ ต่อมาผู้จัดการคนนี้ลาออก และรถจอดอยู่ที่ออฟฟิสลิกไนท์ทัวร์ที่กระบี่หลายเดือ นไม่มีคนใช้ ตัวเองจึงจ้างให้รถสไลด์ (รถรับจ้างที่ใช้บรรทุกรถ) ยกรถคันนี้มาใช้ที่ กทม. ส่วนรถของตัวเองที่มี 3 คัน คือ มาสด้า, เชพ แคปติว่า, โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ นั้นได้เอาไปให้แม่ใช้ เพราะแม่ต้องสลับใช้รถหลายคัน เหตุผลด้านความปลอดภัย เพราะแม่เคยโดนลอบยิงมาก่อน

แต่ความจริงคือ นายธีรสิทธิ์มีเพื่อนชื่อ ฟ. เป็นเพื่อน สมัยเรียน ปวช.อยู่ในชุมชนภักดี กม.11 บริเวณหลังหมอชิต ซึ่งชุมชนนี้เป็นที่อยู่ของคนที่ทำงานในหมอชิตจำนวนห นึ่ง รถคันนี้เป็นของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในหมอชิตคนหน ึ่งชื่อนาย ช. ภรรยาชื่อ นางอ. นายธีรสิทธิ์ซึ่งไปหาเพื่อนที่ชุมชนภักดีบ่อยๆ จนได้รู้จัก กับนายช.และขอยืมรถจากนายช.มาขับและมักแอบอ้างว่าเป็ นรถของบริษัทตัวเอง โดยพยายามอวดอ้างให้เหยื่อฟังบ่อยๆ เกี่ยวกับอภิสิทธิ์ที่ได้รับจากการใช้รถที่มีโลห์กรม ขนส่ง เช่นขับไปจอดที่ไหนก็จะมีคนเกรงใจ เช่นตำรวจ เพราะโลห์นี้กว่าจะขอจากกรมขนส่งได้นั้นยาก และทั้งบริษัทมีรถคันนี้คันเดียวที่มีโลห์กรมขนส่ง ขนาดเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการฯ ก็ยังไม่ได้โลห์นี้จากกรมการขนส่งเลย

วิธีลวง
 

วิธีการที่จะทำให้เหยื่อเชื่อว่าตนเองเป็นลูกเจ้าของ บริษัทรถทัวร์ และมีฐานะจริง มีดังนี้ค่ะ (มีเล่าไว้ในเฟซบุคแล้วนะคะ ใครอ่านแล้วขออภัยค่ะ)

1.การพาเหยื่อไปที่บริษัทสมบัติทัวร์ ถนนวิภาวดีฯ แล้วเธอออกอุบายให้เหยื่อรออยู่ข้างล่าง ส่วนเธอก็จะทำทีเดินขึ้นไปบนตึกส่วนที่เป็นออฟฟิสของ บริษัท ซึ่งเธอได้หลอกเหยื่อไว้ก่อนแล้วว่า นายแม่หวงเธอมาก ห้ามมิให้ลูกน้องผู้ชายเข้าในห้องทำงานเธอโดยเด็ดขาด เนื่องจากเคยมีกรณีที่ลูกน้องผู้ชายจะเอาตัวเข้าแลก เพื่อขอเงินหรือตำแหน่งกับเธอ ถึงขั้นกับเปิดไอ้นั่นให้เธอดู แม่เลยเขียนป้ายไว้หน้าห้องทำงานเธอว่า “ห้ามพนักงานผู้ชายเข้าห้อง” ของนายน้อย และเนื่องจากตรงทางขึ้นมีป้ายว่า Staff Only จึงให้เหยื่อรออยู่บริเวณที่พักผู้โดยสาร

2.การพาเหยื่อไปบางจะเกร็ง สมุทรสงคราม เธอยืมรถเก๋งมาจากคนที่ทำงานในหมอชิตมาใช้ ซึ่งจะมีโลห์รูปปีกนกของกรมการขนส่งติดอยู่บริเวณหน้ ารถ หลอกว่าเป็นรถของบริษัทเธอเอง ซึ่งลูกน้องของเธอ ที่เป็นผู้จัดการสายรถทัวร์ใช้อยู่ เธอก็จะขับรถพาเหยื่อไปที่บ่อหอยแครง ต.บางจะเกร็ง อ.เมือง จ. สมุทรสงคราม ที่อ้างว่าพ่อยกเป็นมรดกให้เธอ ที่นั่นมีคนดูแลบ่ออยู่จริง 2-3 คน มีคนหนึ่งเธออ้างว่าเป็นลุงของเธอชื่ออาเกริก นายแม่จ้างให้มาดูแลบ่อหอย ไม่รู้ว่าเธอจ้างมา หรือโดนหลอกให้เป็นหน้าม้าโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า

3.ตกค่ำในวันเดียวกัน เธอก็จะพาเหยื่อไปริมถนนพระราม 2 หรือ ถ.ธนบุรี-ปากท่อ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นถนนใหญ่ที่มีรถทัวร์วิ่งผ่านลงไปภาคใต้ บริเวณนั้นจะมีอาคารพาณิชย์ที่เธออ้างอ้างว่าเป็นสำน ักงานขายตั๋ว เธอบอกว่าเธอจะดักตรวจรถ เพราะนายแม่จะปรับรถทัวร์คันที่ไม่เปิดป้ายไฟชื่อบริ ษัทที่หน้ารถ โดยเธอก็จะมีอุปกรณ์ไฟฉายหนึ่งอันไว้โบกรถ โดยมีคนที่อ้างว่าเป็นลูกน้องมาช่วยโบกด้วย คนนี้ชื่อเคนะคะ น่าจะเป็นเพื่อนเธอที่ถูกหลอกมา หรือเป็นหน้าม้าก็ไม่ทราบ มีการโบกรถจริงค่ะ แต่ไม่ใช่ตรวจรถ เพราะเธอซื้อปลาเค็มเอาไว้เมื่อตอนเย็น เธอจะฝากปลาเค็มไปกับรถทัวร์ ไปให้ลุงที่ใต้ (คนขับรถทัวร์ชื่อสง่า หรือ น้าหง่า น่าจะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว) ทำให้เหยื่อที่เธอหลอกมาซึ่งนั่งรออยู่ในรถเก๋ง หลงเชื่อว่าเป็นการตรวจรถจริง

ก่อน-หลัง
 

ก่อนหน้านี้นายธีรสิทธิ์เคยไปหลอกคนอื่นว่าเป็นแฟนกั บลูกเจ้าของบริษัทรถทัวร์ค่ะ ตอนนี้แอบอ้างเป็นลูกเสียเอง


รูปของนายธีรสิทธิ์ เป็นรูปก่อนและหลังทำศัลยกรรม ทำจมูก คาง กรีดตา กรอโหนกแก้ม ทำจนหน้าเปลี่ยนค่ะ

คุยโทรศัพท์
 

นายธีรสิทธิ์ มักคุยโทรศัพท์ได้คนเดียวเป็นเวลานานๆ โดยที่ปลายสายไม่รู้ว่ามีคนคุยอยู่ด้วยจริงหรือไม่ เช่นคุยกับนายแม่ คุยกับเจ๊บ๊วย เลขาแม่ คุยกับน้องสาว หรือคุยกับลูกน้อง โดยเฉพาะการคุยกับลูกน้อง ซึ่งมักอ้างว่าลูกน้องโทรมาแจ้งอุบัติเหตุ หรือแจ้งรถเสีย ขอให้นายธีรสิทธิ์ช่วยจัดการแก้ปัญหา หารถมาแทน เมื่อมีโทรศัพท์จากลูกน้องที่เป็นคนขับรถ หรือเด็กรถว่ารถเสีย นายธีรสิทธิ์ก็จะทำทีเป็นจดเลขทะเบียนรถที่เสีย ชื่อพนักงานขับรถ ลงในกระดาษ

หลอกลวงคนอื่นไปทั่ว
 

ชอบเอารูปรถทัวร์มาโชว์ในเฟซบุค และบอกสเถานที่ว่าตัวเองอยู่สมบัติทัวร์ หรือสายใต้

หลอกลวงไปทั่ว
 

คนที่โดนนายธีรสิทธิ์ หลอกตามมาทวงเงิน

หลอกลวงไปทั่ว
 

คนที่โดนนายธีรสิทธิ์หลอก ตามมาทวงเงิน

โดนกันถ้วนหน้า
 

โดนกันถ้วนหน้า เพื่อนตัวเองแท้ๆ ก็ไม่เว้น อันตรายจริงๆ อย่าได้เข้าใกล้ หรือไปรู้จักนายธีรสิทธิ์โดยเด็ดขาด

แอบอ้างหลอกขายมอเตอร์ไซค์
 

นายธีรสิทธิ์ ทับมรินทร์ เคยแอบอ้างหลอกขายมอเตอร์ไซค์ โดยอ้างว่าตัวเองมีมอเตอร์ไซค์ ตามรูปที่นายธีรสิทธิ์โชว์ไว้ในเฟซบุค และชอบเอากุญแจรถมาโชว์ให้เหยื่อดู แต่อ้างว่ากำลังซ่อมอยู่ แล้วก็หลอกเอาเงินอ้างเป็นค่าซ่อมรถจากเหยื่อ และหลอกยืมเอาโนตบุ๊คเหยื่อไปขาย เพื่อจะเอาเงินไปรับมอเตอร์ไซค์ที่ซ่อมแล้วออกมา แต่ก็ไม่มีรถ และเงินมาคืนให้เหยื่อ

เจ้าของรถตัวจริง
 

จะมีรถมาให้ได้อย่างไร ในเมื่อรถที่เอามาแอบอ้าง นายธีรสิทธิ์ไป copy รูปมาจากเวบไซท์เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์แห่งหนึ่ง แล้วมาโพสแอบอ้างในเฟซบุคว่าเป็นของตัวเอง ซึ่งเจ้าของตัวจริงชื่อคุณพัทธ ได้โพสรูปไว้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2553 ตามลิงค์

http://www.cbr150club.com/board/index.php?topic=17618.0

เชฟ แคปติว่า
 

นายธีรสิทธิ์ ทับมรินทร์ มักแอบอ้างว่าตัวเองมีรถยนต์หลายคัน ทั้งฮอนด้า, โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และ เชฟ แคปติว่า ซึ่งเคยหลอกเหยื่อรายหนึ่ง ว่าตัวเองกำลังจะขายรถ เพื่อหลอกยืมเงิน อ้างว่าได้โพสขายรถในเวบไซท์ และมีคนติดต่อซื้อเข้ามาแล้ว มีการทำทีเป็นโทรคุยกับคนที่จะซื้อรถ แต่จริงๆแล้วนายธีรสิทธิ์ ไม่มีรถสักคัน รถที่เอามาโพสในเฟซบุค ก็ copy มาจากเวปไซท์ แล้วแอบอ้างกับคนอื่นว่าเป็นรถของตัวเอง

เวปไซท์รถยนต์
 

เวปไซท์ที่ นายธีรสิทธิ์ไป copy รูปมา ตาม ลิงค์นะคะ

http://www.vigothailand.com/board/in...pic=114759.175

http://www.oknation.net/blog/car/2012/02/05/entry-1

เรือประมง
 

เรือประมงที่อ้างว่าเป็นกิจการของที่บ้าน ซึ่งนายธีรสิทธิ์อ้างว่าพ่อได้สร้างไว้ก่อนจะมาทำรถท ัวร์ หลังจากพ่อตาย (โดนลูกจ้างพม่าฆ่าตายบนเรือ) นายธีรสิทธิ์ได้รับเรือประมงจากพ่อ จำนวน 4 ลำ เป็นมรดก เมื่อเรือเข้าฝั่ง หลังจากหักค่าน้ำมันแล้ว ก็มีรายได้ครั้งละหลายล้าน แต่แม่พยายามเกลี้ยกล่อมให้ตัวเองขายเรือ เพื่อเอาเงินไปใช้หนี้รถทัวร์ แต่ตัวเองปฏิเสธ เพราะเป็นสิ่งที่พ่อสร้างเอาไว้ บางครังนายธีรสิทธิ์อ้างว่าจะต้องไปสะพานปลา เพราะมีเรือกลับจากจับปลามาเข้าฝั่ง

จากรูปในเฟซบุ๊คของนายธีรสิทธิ์ อ้างว่าเป็นเรือเครื่องมือทำมาหากินของที่บ้าน ถ่ายที่แม่กลอง บ้านเกิด

เรือประมง
 

แต่จริงๆ แล้วก็ไป copy มาจากเว็บไซท์มาหลอกคนอื่นอีกเหมือนเดิม เว็บนี้นะคะ

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=160055

เอารถไปถอด Gps
 

นายธีรสิทธิ์ บอกว่าเอารถไปถอด Gps และขับรถไปเจอรถติดมาก

หลอกรูดบัตรเครดิต
 

ตามที่นายธีรสิทธิ์ ได้โชว์รูปโทรศัพท์ 2 เครื่องในเฟซบุค อ้างว่าไม่รู้รุ่นไหนดี ตัวเองเลยซื้อทั้ง 2 เครื่อง ซึ่งเป็นรุ่น Galaxy Note และ Galaxy S II รวมมูลค่าสี่หมื่นกว่าบาท อย่าคิดว่านายธีรสิทธิ์รวยนะคะ ทีแท้แล้วก็ไปหลอกคนอื่นให้ไปรูดซื้อด้วยบัตรครดิตมา นายธีรสิทธิ์อ้างว่า ต้องการใช้โทรศัพท์เพื่อเชื่อมต่อกับระบบแลนด์ของบริ ษัทสมบัติทัวร์ (แสดงชื่อบริษัทสมบัติทัวร์ในใบเสร็จ) ซึ่งอ้างว่าเวลาที่นายธีรสิทธิ์ไม่เข้าออฟฟิส ก็จะสามารถมองเห็นข้อมูลต่างๆของบริษัท เช่น เงินค่าตั๋วรถทัวร์จากการซื้อตั๋วผ่านระบบออนไลน์ กรณีนี้นายธีรสิทธิ์จะหลอกเหยื่อไปที่ขนส่งหมอชิต ทำทีเป็นคุยโทรศัพท์กับลูกน้อง อ้างกับเหยื่อว่าว่าเมื่อตัวเองได้รับเงินเดือนจากบร ิษัท ก็จะนำมาคืนให้ แต่เมื่อเหยื่อหลงกลไปรูดโทรศัพท์ให้แล้ว ตัวเองก็จะไม่รับผิดชอบ และเอาโทรศัพท์หนีหายไปเลยค่ะ (ใบเสร็จจากร้านเจมาร์ท สาขาเซ้นทรัลพระรามเก้า วันที่ 28 มีนาคม 2555)

ยาไอซ์
 

อยากจะอธิบายพฤติกรรมของนายธีรสิทธิ์ เพื่อให้ระวังกันนะคะ พฤติกรรมของนายธีรสิทธิ์ คือไม่มีงานทำ แต่จะไปตีสนิทกับคนไปเรื่อย เมื่อไปคบหรือรู้จักกับใคร ก็จะสังเกตว่าเหยื่อมีเงินหรือเปล่า ถ้าดูแล้วพบว่าเหยื่อมีเงินก็จะตะล่อมขอยืมเงิน หรือถ้ามีบัตรเครดิต ก็จะหลอกเหยื่อให้ไปรูดบัตรเครดิตซื้อสินค้าราคาแพง เช่นโทรศัพท์หรือรูดซื้อทองรูปพรรณ โดยอ้างความจำเป็นต่างๆ และอ้างว่าสิ้นเดือนจะได้เงินเดือนจากบริษัทรถทัวร์ ก็จะนำเงินมาคืน แต่พอสิ้นเดือนก็แก้ตัวว่าแม่ยังไม่โอนเงินเดือนมาให ้ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับแม่กำลังมีปัญ หา ทั้งเรื่องที่ตัวเองไม่กินเส้นกับพ่อเลี้ยง หรือเรื่องที่ตัวเองเคยเล่นยาไอซ์ (แต่อ้างว่าตอนนี้เลิกแล้ว) จนทำให้แม่ไม่พอใจ แม่จึงประชดนายธีรสิทธิ์ด้วยการนำเงินค่าตั๋วโดยสารท ี่เป็นเหรียญสิบบาทจากช่องขายตั๋ว จำนวน 70,000 บาท มาให้เป็นเงินเดือน เก็บอยู่ที่ออฟฟิส ขนส่งสายใต้ ซึ่งนายธีรสิทธิ์ได้ทำทีเป็นโทรศัพท์คุยกับเจ๊บ๊วย เลขาแม่ หรือลูกน้องคนอื่น ให้ช่วยดำเนินการเอาเหรียญนี้ไปแลก แต่ยังไม่มีใครดำเนินการให้ เมื่อเวลาผ่านไปนานก็จะอ้างว่าเงินเดือนได้มาแล้ว แต่ได้นำไปจ่ายเป็นค่าภาษีรถยนต์ทั้งสามคันหมดแล้ว

กรณีเรื่องของยาไอซ์ ตามที่มีข่าวตำรวจบุกจับทายาทของบริษัทรถทัวร์ ตามลิงค์ http://www.rawangpai.com/detailnews.php?id=1141 หรือ http://www.komchadluek.net/detail/20...%E0%B9%8C.html นายธีรสิทธิ์ แอบอ้างว่าจริงๆแล้ว บุคคลที่โดนตำรวจจับคือตัวเอง แต่แม่ได้ขอให้นักข่าวเปลี่ยนชื่อในข่าวจากธีรสิทธิ์ เป็นชื่อพสิทธิ์ และคนในรูปที่ถูกจับก็เป็นพนักงานขับรถทัวร์ มาลงในภาพข่าวแทนตัวเอง

ซึ่งนายธีรสิทธิ์ตัวจริง ปัจจุบันก็ยังๆก็ติดยาไอซ์อยู่ ซึ่งจะเป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มเพื่อนของนายธีรสิทธิ์ เพราะต่างก็เคยถูกหลอกเอาเงินไปเช่นกัน เมื่อนายธีรสิทธิ์หลอกเอาเงิน โทรศัพท์ หรือทองรูปพรรณ จากเหยื่อได้ก็จะนำไปขาย หรือจำนำ เพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ

อยู่ที่ไหน??
 

ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่านายธีรสิทธิ์ หนีไปอยู่ที่ไหน หรือกำลังหลอกใครอยู่นะคะ เพราะนายคนนี้จะไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ที่ผ่านมาจะไปขออยู่กับเพื่อนที่หอพัก แล้วก็ไปหลอกเอาเงิน และของของเพื่อนไปจำนำ หรือไปหลอกคบกับผู้ชาย ถึงขนาดย้ายข้าวของไปขออยู่ด้วย สุดท้ายก็จบลงโดยไปหลอกเอาเงินเค้าอีก ภายในช่วงระยะเวลาไม่เกินสองเดือน หรือจนกว่าความจะแตก กว่าเหยื่อรู้ความจริงว่าโดนหลอก ก็หมดไปเป็นแสน แล้วนายธีรสิทธิ์ก็จะหนีไป ไม่ว่าใครที่อยู่กับนายธีรสิทธิ์ตอนนี้ ถ้านายธีรสิทธิ์บอกว่าไม่สบาย ปวดท้อง หน้าดำหน้าแดง แขนขามีอาการชักกระตุก หงุดหงิดง่าย กระวนกระวาย ซึ่งเจ้าตัวจะบอกว่าเป็นโรคกระเพาะทะลุ ต้องฉีดยา ต้องทำอัลตราซาวด์ดูแผลในกระเพาะ ทำเคมีบำบัดรักษาแผล ขอยืมเงินไปหาหมอ ก็อย่าไปเชื่อนะคะ นั่นเป็นอาการของคนอยากไอซ์นะคะ ถ้าให้เงินช่วยเหลือไป นายคนนี้ก็จะเอาเงินไปซื้อไอซ์ค่ะ มีคนโดนมาแล้วนะคะ

รูปภาพ
 

ได้แก้ไขวิธีการโพสรูปภาพ เพื่อให้บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สมาชิก สามารถมองเห็นรูปภาพได้นะคะ

ปิดเฟสบุค
 

หลังจากโดนเปิดโปงความจอมปลอม ลวงโลก ที่สร้างไว้ในเฟซบุค ตอนนี้นายธีรสิทธิ์ ทับมรินทร์ ได้ปิดเฟซบุคของตัวเอง http://www.facebook.com/TEERASITM หนีไปแล้วนะคะ และอาจจะกำลังหาเหยื่อรายใหม่อยู่ทาง MSN ใครที่แอดนายธีรสิทธิ์ เป็นเพื่อน หรือรับแอดนายคนนี้เป็นเพื่อน ระวังโดนหลอกนะคะ อันตรายค่ะ

M2f
 

ขอบคุณหนังสือพิมพ์ M2F นะคะที่ช่วยเผยแพร่ข่าวความลวงโลกของนายธีรสิทธิ์ ทับมรินทร์ ให้คนได้รู้กัน จะได้ไม่มีใครหลงตกเป็นเหยื่ออีก


หนังสือพิมพ์ M2F ฉบับวันที่ 24 สิงหาคม 2555 หน้าอาชญากรรม
(หนังสือพิมพ์ฉบับนี้มีแจกที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT สถานีต่างๆในกรุงเทพฯค่ะ)

ขอรายละเอียด
 

มีรายละเอียดมั๊ยคะ ว่าไปหลอกใคร ยังไง หลอกไปเท่าไหร่