![]() |
มาแล้วครับ พอดีออกไปข้างนอกมา เลยทำให้ช้า
เริ่มกันจาก ระบบแสดงผล ![]() ระบบนี้จะเป็นระบบที่แสดงสถานะต่าง ๆ ของรถทั้งหมด ไม่ว่ารถจะเป็นอะไร หน้าจอนี้จะแสดงข้อมูลออกมาให้หมด โดยเฉพาะหน้าจอหลัก ซึ่งถ้ามีอะไรผิดปกคิ มันจะแจ้งขึ้นมาให้เราทราบโดยทันที จะแบ่งได้เป็นสามระดับ ระดับแรก แสดงถึงการผิดปกติเล็กน้อย ไม่มีผลต่อการขับ แค่แจ้งให้ทรายเฉย ๆ เช่น ใช้เกียร์ต่ำไป ในการออกตัว โดยจะแสดง สัญลักษณ์ตัวไอ [i] ในกรอบสี่เหลี่ยมสีขาว ระดับที่สอง แจ้งถึงสภาวะผิดปกติระดับปานกลาง จะแสดงสัญลักษณ์ คำว่า [CHECK] ในกรอบสีเหลือง โดยระดับบนี้จะแจ้งถึงอาการผิดปกติของตัวรถให้นำรถเข ้าตรวจเช็คเมื่อรถจอดในครั้งต่อไป เช่น ระบบลมรั่ว แจ้งให้ทรายถึงเวลาครบกำหลดบำรุงดูแลรักษาต่าง ๆ เป็นต้น ระดับสุดท้าย ระดับนี้จะเป็นระดับอันตรายที่สุด จะต้องรีบจอดรถให้เร็วที่สุด เพราะถ้าขืนขับต่อไป อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวรถและอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหต ุถึฃขั้นแก่ชีวิตได้ โดยจะแสดงสัญลักษณ์เครื่องหมายตกใจในกรอบสามเหลี่ยมส ีแดง ถ้าเครื่องหมายอันนี้แสดงขึ้นมา ต้องรีบจอดทันที และโทรหาศูนย์เพื่อให้ช่างมาดู สำหรับหน้าจอหลัก การเรียกใช้งานจะเรียกใช้จาก ก้านทางด้านขวาของพวงมาลัย ซึ่งจะเป็นก้านใช้งานที่ปัดน้ำฝน ตามในรูป ![]() การใช้งานหน้าจอหลัก ปุม esc จะเป็นปุ่มยกเลิกและปุ่มย้อนกลับสู่เมนูก่อนหน้า ปุ่ม enter จะเป็นปุ่มที่ใช้เข้าหน้าจอเมนูหลักและปุ่มตกลง ปุ่ม ลูกศรขึ้นลง จะใช้ไว้เลื่อนดูหัวข้อ และ เปลี่ยนค่าต่าง ๆ หน้าจอหลัก หน้าจอนี้จะแดงค่าต่าง ๆ ที่เรากำหนดไว้ และแสดงหน้าเมนูขึ้นมา ![]() เราสามารถที่จะให้หน้าจอหลักนี้ แสดงค่าสถานะต่าง ๆ ได้สามค่า ตามแต่เราจะเซ๊ตไว้ เช่นตามหน้าจอนี้ บนสุดผมให้แสดงถึง อัตราการใช้น้ำมัน โดยค่าบนแสถงถึงอัตราการใช้น้ำมันต่อหนึ่งลิตรว่าวิ่ งไปได้กี่กิโลเมตรโดยเฉลี่ยจากที่ได้ตั้งเซ็ตไว้จนถึ งปัจจุบัน ส่วนบรรทัดที่ 2 แสดงถึง อัตราการใช้น้ำมันแบบเรียลไทม์ ค่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และจะมีผลถึงค่าน้ำมันในบรรทัดแรกด้วย ส่วนกราฟทางขวานั้น แสดงถึงว่าเราเหยียบคันเร่งหนักขนาดไหน ถ้าเหยียบหนักค่าทางซ้ายจะต่ำและกราฟจะตก ถ้าเหยียบเบา กราฟจะเทไปทางขวา และค่าตัวเลขจะสูง บรรทัดที่สองจะแสดงถึงระยะทางที่ได้วิ่งไปในทริบนั้น ๆ โดยที่เราจะต้องตั้งค่าใหม่ถ้าต้องการที่จะทราบระยะท างใหม่ บรรทัดที่สาม จะแสดงถึง เกียร์ ว่าเราใช้เกียร์ไหน โดยในกรอบสี่เหลี่ยมแสดงถึงว่าเราใช้เกียร์ในโหมดไหน อยู่ ทางด้านซ้ายแสดงถึงว่าเราใช้โหมด eco อยู่ ส่วนทางด้านขวาแสดงถึงตำแหน่งเกียร์ว่าอยู่ที่เกียร์ ไหน ส่วนบรรทัดล่างสุด ทางซ้ายจะแสดงถึงสถานะรถที่ได้เปิดใช้งานอยู่ ส่วนทางขวาจะเป็นกิโลรวมทั้งหมดว่าวิ่งมาได้กี่กิโลแ ล้ว |
ระบบต่อมา ระบบเบรค ระบบเบรคในรถนี้จะมีถึง 5 ชนิดด้วยกัน โดยเริ่มจาก
เบรคเท้า อันนี้เป็นระบบเบรคที่เราใช้กันเป็นหลักทั่วไป เอนจิ้นเบรค คือการใช้การลดเกียร์ลงเพื่อฉุดกำลังเครื่องทำให้ควา มเร็วลดลง โดยจะใช้ได้ที่โหลดเกียร์ธรรมดาเท่านั้น(โหมด M) เบรคไอเสีย เบรคไอเสียของวอลโว่จะอยู่ทางขวา จะอยู่ฝั่งเดียวกับที่ป้ดน้ำฝน โดยจะอยู่เหนือกว่าตามรูป ![]() โดยระดับของเบรคไอเสียจะแบ่งได้อีก 5 ระดับดังนี้ ระดับ A(Auto) ระดับนี้เราจะต้องเหยียบเบรคเท้าเล็กน้อยเพื่อเป็นกา รเรียกใช้งาน ถ้าเราปล่อยไม่เหยียบคันเร่ง เบรคไอเสียจะยังไม่ทำงานนะครับ ต้องเหยียบเบรคเท้าด้วยก่อน ระดับ 1-3 ระดับนี้ ถ้าเราปล่อยคันเร่งปุ๊ปเบรคไอเสียจะทำงานทันที ระดับความแรง ก็ตามลำดับ 1 2 3 น้อยไปหามาก ระดับ B ระดับนี้ ถ้าใช้ไม่ระวัง อาจจะมีหัวทิ่มได้ เพราะเบรคแรงมาก และระดับนี้ จะไม่ค้าง เวลาใช้ก็โยกลงมาให้สุด ถ้าเลิกใช้งานจะเด้งกลับไปอยู่ที่ระดับสามโดยอัตโนมั ติ เบรคไอเสียนี้ ถ้าใช้งานเป็นและถูกจังหวะ สามารถลงเขาโดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรคเท้าแม้แต่ครั้งเ ดียวเลยก็ได้ เบรคจอด เบรคชนิดนี้ จะใช้ในตอนจอดเป็นหลักหรือเบรคมือนั่นเอง แต่ความพิเศษของเบรคตัวนี้จะอยู่ที่ ถ้าเราุดึงลงมาแต่ไม่สุด จะกลายเป็นว่า ให้ล้อทุกล้อเบรคหมด(คล้าย ๆ เบรคเท้า)โดยถ้าเป็นหัวลาก จะรวมไปถึงหาง หรือเบรคตั้งแต่หัวยั้นหาง ถ้าใช้ไม่ระวังก็อาจจะมีหัวทิ่มได้อีกเหมือนกัน ![]() และอันสุดท้าย ปุ่มอันเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาข้างล่างเบรคจอด เรียนกว่า บล๊อคกลิ้งวาว์ร เป็นเบรคนิรถัย ใช้สำหรับเวลาจอดรถไว้นาน ๆ โดยถ้าดึงขึ้นจะเป็นการเบรคล๊อคล้อทั้งหมดและถ้ามีลม รั่วในระบบจนลมหมด เบรคตัวนี้ จะเด้งขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนไปจนเกิดอุบัติเหตุ |
เรียนถามคุณtawnoei volvo fm400 ลากหาง3เพลา ได้km/L ครับ??
อยากทราบข้อมูลจากผู้ขับจริงๆครับ เพื่อเปรียบเทียบกับdeca360และmega344 ปัจจุบันใช้2หัวนี่ ลากตู้เย็น40ตันหาง3เพลา จากจันทบุรีขึ้นเชียงของ เฉลี่ยหนักไปเบากลับได้2.5-3km/L ซึ่งถ้าหัวvolvoหรือscania คำนวนค่าใช้จ่ายจริงๆแล้วคุ้มทุนกว่า ผมจะขายหัวญี่ปุ่นที่มีออก แล้วเปลี่ยนมาใช้หัวยุโรปแทน ขอบคุณมากครับ |
ความรู้ทั้งนั้นเลย ขอบคุณครับ
|
ไม่เคยขับ แต่ก็อ่าน ความรู้ดีดีทั้งนั้น ขอบคุณครับ...
|
อ้างถึง:
สำหรับวอลโว่ มันมีวิธีขับแบเซพ ๆ ด้วยครับ ไว้ถ้ามีเวลาว่าง ๆ จะมาเขียนต่อนะครับ เพราะที่เขียนนี่มันยังไม่หมด ยังเหลือระบบ cc ระบบถุงลม และวิธีการขับแบบเซพ ๆ น้ำมัน รบกวนอดใจรออีกซักนิดนะครับ (วิ่งงานตลอดวันหยุดมาก็นอนอย่างเดียว -*-) |
อ้างถึง:
|
รอฟังนะครับ ได้ความรู้เพิ่มเติมของหอบังคับการในรถหัวลาก ทำให้ผมนึกถึงรถหัวลากของอเมริกา ยี่ห้อ Peterbilt ของเมกา หรือรถหัวลากในหนังฟอร์มยักษ์ เรื่อง ทรานฟอร์เมอร์ 4 ครับ ไม่รู้ว่าหลักการทำงานจะคล้าย ๆ กันกับของทางยุโรปหรือไม่ครับ แต่รูปทรงของรถหัวลากอเมริกาจะดูคลาสสิคและหรูอลังกา รงานสร้างมากกว่าทางโซนยุโรปครับ
|
กลับมาต่อแล้วครับ ต้องขอโทษทุก ๆ ท่านเป็ฯอย่างสูงหลังจากที่หายไปนานมากกกกก (วันหยุดก็หลับเป็นตาย -*-) วันนี้ผมจะมาต่อกับระบบที่เหลืออยู่นะครับ เริ่มจาก
ระบบเกียร์อัฉริยะ I-Shift ![]() วอลโว่เขาจะไม่เรียกเกียร์ออโต้นะครับ มีเคือง แต่จะเรียกว่าระบบเกียร์อัฉริยะ มันก็อัฉริยะสมชื่อจริง ๆ จากในรูปจะเห็น ตัวอักษร 4 ตัวด้วยกัน เริ่มจากตัวแรก ตัว R เกียร์นี้จะเป็นเกียร์ถอยหลัง โดยจะมีทั้งหมด 4 เกียร์ ซึ่งจะมี R1 ถึง R4 โดยที่ R1 R2 เราสามารถเข้าเกียร์ถอยได้เลย แต่ส่วนเกียร์ R3 R4 เราจะต้องหยุดรถที่ตำแหน่งเกียร์ R2 ก่อน ถึงจะสามารถที่จะเข้าเกียร์ R3 R4 ได้ ที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการเข้าเกียร์ผิดเพราะ R3 R4 นั้นจะเร็วมาก ถอยหลังได้ความเร็วสูงสุด 80กม./ชม. ถ้าไม่เชี่ยวจริงโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก ทางวอลโว่เลยทำตัวเซพตี้นี้ไว้ ต่อมา เกียร์ N เกือบทุกท่านน่าจะรู้ว่าเกียร์นี้คือเกียร์ว่าง แต่ความพิเศษของเกียร์นี้คือ เวลาที่จะต้องสตารท์รถ จะต้องให้เกียร์มาอยู่ที่ตำแหน่งนี้ซะก่อน ไม่งั้นจะสตารท์รถไม่ได้เลย ต้องทำการบิดกุญแจปิดก่อน แล้วผลักเกียร์มาที่ตำแหน่งนี้ แล้วบิดกุญแจเปิดใหม่ ต่อมา เกียร์ A เป็นโหมดเกียร์ออโต้เต็มรูปแบบ ซึ่งเราไม่ต้องทำอะไรเลย มันจัดการให้เสร็จสรรพหมดทุกอย่าง ถ้าขับนาน ๆ อาจจะเป็นง่อยได้ -*- เราไม่ต้องไปยุ่งกะมันเลยนอนกจากผลักหัวเกียร์ไปที่ต ำแหน่งนี้ จากนั้น ก็มีหน้าที่ขับ ๆ ๆไปอย่างเดียว เท้าเหยียบคันเร่งกะเบรค ส่วนมือก็จับพวงมาลัยไป แค่นั้น ตัวเกียร์มันจะคำนวนให้หมดว่าจะออกตัวใช้เกียร์ไหน จังหวะเปลี่ยนเกียร์ โดยจะเอาข้อมูลมาจาก น้ำหนักรถ ระดับการเอียงของพื้นถนน ระดับการเหยียบคันเร่ง จะเอาข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผล เพื่อเลือกเกียร์ที่เหมาะสมให้และช่วงจังหวะการเปลี่ ยนเกียร์ ต่อมา เกียร์ M เกียรนี้ จะคล้าย ๆ เกียร์ A เพียงแต่เราจะต้องเข้าเกียร์เองโดยกดปุ่ม+- ที่อยู่ตรงหัวเกียร์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ การใช้โหมดนี้ คนขับจะต้องรู้จังหวะรอบเครื่องของรถบ้างในระดับนึง เพื่อให้เข้าเกียร์ได้กำลังสูงสุดและนิ่มนวลที่สุด ต่อมา ปุ่ม E/P ปุ่มนี้ผมเรียกว่าปุ่มเรียกรอบเครื่อง เพราะถ้าเรากดปุ่มนี้ จังหวะในการเปลี่ยนเกียร์จะใช้ที่รอบสูงขึ้น เพื่อดึงเอากำลังออกมาให้มากกว่าเดิม เช่น ช่วงรถหนักกำลังขึ้นเนินค่อนข้างชัน หรือต้องการกำลังในการฉุดลากที่มากขึ้น โดยจะต้องใช้ร่วมกับโหมด A เท่านั้น เกียร์ L เกียร์พิเศษ ![]() เกียร์นี้ อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกียร์ โลว์ หรือเกียร์สโลว์นะครับ เกียร์นี้เรียกว่าเกียร์ประคองหรือเกียร์ฉุกเฉิน ใช้เฉพาะเวลาที่เกียร์มีปัญหา แต่ยังสามารถที่จะเคลื่อนต่อไปได้บ้าง จะต้องใช้โหมดนี้ โดยที่โหมดนี้เราจะสามารถเข้าได้เฉพาะเกียร์ R1 และโหมด A หรือ M ที่เกียร์ 1 3 5 เท่านั้น ซึ่งเอาไว้ประคองรถให้กลับไปยังอู่หรือจุดที่ใกล้ที่ สุดเพื่อทำการตรวจเช็คหรือซ่อมแซมต่อไป ถ้ามีใครมาบอกว่า ตัว L นั้นคือเกียร์โลว์ของวอลโว่ บอกได้เลยครับ ว่ามันมั่วเห็น ๆ |
ต่อมาระบบ CC(Cruise Control) หรือตัวล๊อคคันเร่ง
![]() ระบบนี้ ก็เป็นอีกระบบนึงที่จะทำให้เราเป็นง่อยได้ โดยที่ระบบนี้ จะเป็นการล๊อกความเร็วไว้ให้คงที่ วิ่งความเร็วระดับนึงไว้ไปตลอดจนกว่าเราจะเหยียบเบรค เปลี่ยนเกียร์ ใช้เบรคไอเสีย CC ถึงจะยกเลิก โดยการใช้งานนั้น เราจะต้องเลื่อนสวิตช์ไปที่ ON ก่อน จากนั้นให้เราขับไปจนถึงความเร็วที่เราต้องการ จากนั้นให้เรา เลื่อนที่ที่ปุ่ม resume เพื่อทำการล๊อคความเร็ว หรือให้กดปุ่ม +- ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน ถ้าเราต้องการเพิ่มหรือลดความเร็ว ก็ให้กดปุ่ม+- เช่นเดียวกัน โดยความเร็วจะเพิ่มทีละ 1 กม.ไปเรื่อย ๆ จนถึงความเร็ว 90 กม/ชม และความเร็ซขั้นต่ำที่จะใช้ได้คือเริ่มต้นที่ 30 กม/ชม ระบบนี้จะมีข้อดีตรงที่ เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่คนขับมากกกก และยังสามารถช่วยประหยัดน้ำมัน ได้มากขึ้น เมื่อใช้ในทางเรีบย ๆ ไม่ค่อยมีเนินมาก |
ต่อมา เป็นปุ่ม option เพื่อช่วยในการใช้งานให้สะดวกมากขึ้น
![]() จากในรูป อันแรกที่เป็นรูปไฟ นั่นคือปุ่มปิดเปิดไฟหัวเก๋งครับ อันนี้ไม่ค่อยเท่าไร ต่อมาอันล่างทางซ้ายเป็นปุ่มล๊อกเพลาครับไว้สำหรับเว ลารถติดหล่มหรือโคลนเพื่อตะกุยปีนขึ้นมาครับ คล้าย ๆ ระบบล๊อคเพลาที่โฆษณาในรถเชพโลเล็ตน่ะครับ ข้อควรระวังเวลาใช้ปุ่มนี้ ต้องห้ามเลี้ยวรถเป็นอันขาดครับ ไม่งั้นเพลาจะขาดเอาได้ ต่อมา อันที่เห็นเป็นวงกลมสองวง ถ้าเรากดขึ้นจะเป็นการยกล้อโบกี้ขึ้นเก็บ ถ้าเห็นรถวอลโว่ผ่าน ลองสังเกตุดูครับ ว่าล้อท้ายสุดยกขึ้น นั่นแหละครับเขายกล้อเก็บขึ้นไว้ ข้อดีคือ เป็นการประหยัดยางและประหยัดน้ำมันครับ ข้อควรระวัง ถ้านำหนักรถรวมหาง เกิน 26 ตัน ไฟเตือนแจ้งการยกจะกระพริบเตือน ว่านำหนักเกิน อย่าพยายามใช้ ไม่อย่างนั้นอาจได้มีเปลี่ยนระบบเซนเซอร์ถุงลม ยกเซ็ตแน่นอน แล้วถ้าเรากดลงค้างไว้ 3 วินาที จะเป็นการถ่ายน้ำหนักระหว่างล้อจักรกับล้อโบกี้ แต่ไม่ได้ยกล้อโบกี้ขึ้นนะครับ แค่ถ่ายเทลมจากล้อโบกี้ มาเพื่มให้ที่ล้อจักร เพื่อไว้สำหรับ ขึ้นเนินชัน ๆ และเวลาขึ้นเนินตอนฝนตก เพื่อไม่ให้ล้อจักรเกิดอาการล้อหมุนฟรีเพราะล้อโบกี้ ไปค้ำทำให้ผิวหน้าล้อจักรสัมผัสกับผิวถนนน้อยลงจนทำใ ห้หมุนฟรีไม่มีแรงใต่ขึ้นเนิน ![]() ต่อมาที่เป็นรูปหางพ่วง คือ เบรคไฟฟ้าหางพ่วง อันนี้ผมมีไว้จะเทสเบรคหางเวลาที่ต่อตู้ใหม่ ๆ เพื่อเป็นการทดสอบ เบรคหาง และทดสอบว่า สลักคิงพิณได้ต่อเข้าล๊อคไม่หลุดจากแป้นหน้าวัว ป้องกันการตู้ร่วงลงพื้น ถือว่านี่เป็นพื้นฐานของการตรวจเช็คความปลอดภัยของคน ขับรถพ่วงลากจุงเลยก็ว่าได้ แทบทุกบริษัท ใครทำตู้ร่วงนี้ ไล่ออกสถานเดียวนะครับ เพราะถือว่า ประมาทไม่มีการตรวจเช๊คอย่างละเอียดถี่ถ้วน ต่อมา ที่มีตัวอักษร TCS หรือระบบ แทรคชั่นคอนโทรล เป็นระบบป้องกันล้อหมุนฟรี เมือวิ่งผ่านทางที่ขรุขระ เพื่อป้องกันอาการเสียหลักจนเสียการควบคุม ตัวเดียวกันกับที่ใส่ในรถแข่งนั่นแหละครับ ต่อมาคือ ปุ่มช่วยออกตัวบนทางลาดชัน หรือภาษาชาวรถเรียกว่า ถอนตอ นั่นแหละครับ เพียงแต่ระบบนี้ จะช่วยเราได้เยอะ ตอนเวลาที่เราติดบนเนิน(ผมชอบใช้มากเวลาไปส่งสโตร์ที ่มีช่องโหลดอยู่ชั้นสอง แล้วเวลาถอยเราต้องทิ่มหัวลงมาแล้วจึงถอยเข้าช่องโหล ด) เวลาใช้เราก็กดไปหนึ่งที รถจะหยุดเป็นเวลา 3 วินาที ช่วงเวลานี้ให้เราเหยียบคันเร่งส่งออกตัวไปได้เลยครั บ สบายสุด ๆ ไม่ต้องมาพะวงอะไรเลย:D ไว้เดียวมาต่อ วิธีขับแบบประหยัดน้ำมัน และเทคนิคการใช้เกียร์ฟรี(ไม่ใช่เกียร์ว่างนะครับ) ไว้เวลาลงเนินเพื่อประหยัดน้ำมัน |
อ้างถึง:
สไตล์อเมริกาครับ มีหรูบ้าง ตามสไตล์พี่แก ![]() ![]() ![]() ![]() รถสไตล์ยุโรปครับจะเน้นแนวหรู ๆ ไฮโซ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:03 PM |
Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2025, Jelsoft Enterprises Ltd.