นั้นนะซิ บขส เขามีหลักเกณฑ์อย่างไรกันแน่ แต่เท่าที่สังเกต เฉพาะกับสาย 1-100 เขาจะไล่เส้นทางภาคเหนือภาคกลางก่อน แล้วมาเริ่มสายอีสาน ที่ 20 พอหมดสายอีสานก็ไปตะวันออก ตามด้วยจังหวัดรอบๆกทม ทั้งทิศตะวันออกและตะวันตก หลังจากนั้นจะเริ่มไล่ลงไปทางใต้ แต่ก็มั่วกันอยู่ดีช่วงปลายๆ เพราะสาย 100 เป็นทางภาคเหนือ พอหมด 1-100 รถหมวด2 จะเริ่มใหม่โดยมีเลข 9 นำหน้า โดยเริ่มต้นด้วยเส้นทางภาคกลาง แต่ก็มั่วในที่สุด ทั้งสายตะวันออกและเหนือ แล้วค่อยไปเริ่มเรียงที่สายอีสานอีกที หลังจากหมดสายอีสานก็จะกลับมามั่วอีกที 949 950 951
พอหมดเส้นทาง 3 หลัก ก็จะมี 9 มาเพิ่มอีกเป็นเส้นทางที่มี 4 หลัก นับจากนี้ผมเข้าใจว่าเขาไล่ตามลำดับ ตามเส้นทางที่ขอเปิดใหม่ ไม่ได้ขึ้นกับภูมิภาค
ส่วนหมายเลขในแต่ละมาตรฐาน โดยส่วยใหญ่จะแยกกันรัน ยกเว้น ม.1ข ม.1พ จะรันผสมกันไป พักหลังมีแต่รถ ม.4 ออกมาวิ่ง ซึ่งจะรันแยกกันไปในแต่ละมาตรฐาน ยกเว้นสาย 14 จะยังหลงเหลือ รถสองชั้นรุ่นคุณปู่ ใช้เบอร์ร่วมกับรถ ม.1ข อยู่
แต่พักหลังผมเริ่มสงสัยอีกแล้วว่า ทำไมมีกันรันเบอร์รถคนละมาตรฐานต่อเนื่องกัน คือรถ ม.4พ 20-50 - 20-53 ของสมบัติที่ไปใช้เบอร์ต่อกับ ม.4ข งง ครับเพราะจังหวัดอื่นๆแยกกันรันหมด
อีกย่างที่ผมสงสัยครับ คือรถมาตรฐานผสม เขาจะหลักเกณฑ์รันเลขรถตามมาตรฐานไหนกันแน่ เช่น สมมติว่า มีรถผสม ม.4ก-ข เบอร์รถคันนี้จะมีหลักเกณฑ์ไปรันกับเบอร์มาตรฐานอะไร โดยในปัจจุบันเท่าที่เห็น ไม่ว่ามาตรฐาน ข จะไปผสมกับมาตรฐานอะไร รถคันนั้นจะไปใช้เบอร์ มาตรฐาน ข ทั้งหมด แค่สงสัย ครับ
ส่วนกันรันหมายเลขรถของ บขส เขาจะรันเบอร์ของเขาเอง ไม่เกี่ยวกับรถเอกชนเลย และการรันก็ไม่ได้เรียงตามสายหรือมาตรฐานรถ แต่อย่างใด รถทุกคันของ บขส จะมีหมายเลขประจำคันอยู่แล้ว ปกติรถมาตรฐานเดียวกันจะมีการรันต่อเนื่องกัน ขึ้นอยู่ว่าจะนำไปวิ่งสายไหน ก็จำนำหมายเลขเส้นทางมาแปะไว้หน้าเบอร์ประจำรถ เช่น รถคันหมายเลข 2012 เมื่อนำไปวิ่งสายเชียงใหม่ ก็จะได้หมายเลข 18-2012 หากมีการเปลี่ยนแปลงนำรถคันนี้ไปวิ่งเส้นทางอื่นเช่น หนองคาย รถคันเดิมนี้ก็จะเมีหมายเลขปลี่ยนเป็น 23-2012
|