|
คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ค้นหา | กระทู้ใหม่วันนี้ | ทำสัญลักษณ์ว่าอ่านแล้ว |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม | ค้นหาในหัวข้อนี้ | เรียบเรียงคำตอบ |
|
#1
|
|||
|
|||
![]() มีอีกบริษัทหนึ่งไม่เห็นพูดถึงกันบ้างเลย.....สยามเฟ ิสท์ทัวร์ก็ใช้นะแต่จะเป็นรุ่น DELUXE สมัยผมป4นู้นแหนะจำได้ว่าค่ารถจากแม่สายมากรุงเทพฯน่ าจะ 280 บาท รถป1นะสมัยนั้น vip ยังไม่มี
|
#2
|
||||
|
||||
![]() โห แจ่มจริงๆ คลาสสิคสุดๆ รถญี่ปุ่นเค้าเทห์จริงๆ เบาะเค้าดูดีจริงๆนะ:emo_toon07:
|
#3
|
||||
|
||||
![]() โหเก่าดีจริงครับ
![]() |
#4
|
||||
|
||||
![]() กิ๊กไม่เคยเห็นเลยอ่ะ ขอบคุณพี่บีบีที่เอาภาพมาฝาก
แต่รถญี่ปุ่นสวยดีเนาะ แล้วรถก็เก่าด้วยอะ ใช่ๆๆคลาสสิคดี |
#5
|
||||
|
||||
![]() ต้องขอโทษคุณ 957 ด้วยที่ลืมสยามเฟิส์ทไปเลย และต้องขอบคุณ คุณชาญณรงค์108 ที่อุตส่าห์ให้ความสนใจติดตามอ่านเรื่องราวในอดีตของ ผมครับ
ครับ..สยามเฟิส์ททัวร์เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ใช้รถนิส สันยูดี มีทั้งชั้นเดียวและชั้นครึ่ง จะเรียกว่าสยามเฟิส์ทเป็นแฟนพันธุ์แท้นิสสันยูดีก็คง ไม่ผิด เพราะหลังจากที่ปลดประจำการเจ้านิสสันยูดีชุดนี้แล้ว สยามเฟิส์ทก็ยังนำเข้าแชสซีใหม่เอี่ยมนิสสันยูดีมาใช ้อีก ผมยังเคยนั่งเลยครับ เบอร์ 18-100 กับ 18-105 กระมัง ที่ตอนนี้ก็ถึงคราวปลดระวางไปอีกแล้ว ไม่รู้ว่าสมบัติทัวร์ซื้อแชสซียูดีของสยามเฟิส์ทนี้ต ่อไปหรือเปล่า คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเอาไปทำรถ ป.2 ผมชอบรถนิสสันยูดีของสยามเฟิส์ทรุ่นนี้(18-100)นี้มากครับ เวลานั่งชอบนั่งท้ายๆรถครับ ชอบฟังเสียงเครื่องยนต์ มันเพราะมาก เสียงเบรคไอเสียก็เพราะ เสียงเบรคลมก็เพราะ ไม่รู้โรคจิตหรือเปล่า ชาญทัวร์สิครับ สมัยก่อนเป็นเจ้าพ่อรถอิสาน เริ่มจากสาย20 ขอนแก่นนี่แหละ เอารถนิสสันยูดีทั้งชั้นเดียวชั้นครึ่งมาวิ่ง ก่อนที่ บขส.จะบังคับให้เข้าเป็นรถร่วม ชาญทัวร์มีรถนิสสันยูดีหลายสีมาก แสบที่สุดคือรถนิสสันยูดีสีแสด-ดำครับ คุณลองนึกดูสิว่าสีมันแสบมั๊ย สีส้มกับสีดำเนี่ย แถมข้างรถก็มีตัวหนังสือขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเขียนบรรย ายสรรพคุณรถไว้เสร็จสรรพ ผมจำได้ประมาณว่า " The happiness super luxury aircondition coach" อะไรทำนองนี้ ก็ไม่รู้เฮียชาญแกไปซื้อมารถมาจากไหนบ้าง รถของแกส่วนใหญ่เป็นรถมือสองครับ ที่ว่าหลายสีคือ รถ 20 คันสีไม่เหมือนกันซักคันอะไรประมาณนี้ จนกระทั่งเป้นรถร่วม บขส. ถึงได้ทำสีใหม่ เป้นสีฟ้า-ขาว หรือนำเงิน-ขาว ค่อยดูเหมือนกันหน่อย ชาญทัวร์เป็นผู้บุกเบิกรถวิ่งกลางวันโดยแท้ครับ นำร่องด้วยการติดฟิลม์กรองแสงรถทัวร์ ซึ่งสมัยนั้นรถทัวร์ไม่ติดฟิลม์หรอกครับ กระจกบานมันใหญ่ ค่าติดฟิลม์แพง แต่ด้วยความที่รถวิ่งมาก วิ่งทั้งกลางวันกลางคืน กลางวันอากาศร้อน แอร์สู่ไม่ไหว ม่านกันแดดญี่ปุ่นก็เอาไม่อยู่ ชาญทัวร์ก็ เลยเป็นเจ้าแรกที่ติดฟิลม์กรองแสงรถทัวร์ครับ เล่นซะดำปื้อไปเลย..อิอิ แต่ได้ผลครับ หายร้อน หลังๆมาบริษัทก็เอาอย่างมั่ง...ตอนนั้นคู่แข่งรถสาย 20 ก็มีมงคลทัวร์-ล.รุ่งประเสริฐนี่แหละ ติดฟิลม์รถยูดีเก่าของสยามโค้ช(รถเก่า ขสมก.รุ่นแรกสาย ปอ.2 กับรถ ปอ.1 ที่ปลดแล้ว) เอามาวิ่งกันเต็มไปหมด รถนิสสันยูดีรุ่นนี้(ที่ปรากฏในรูปรถราชตฤณมัย) เบาะเป้นผ้าสักหลาดตารางสี่เหลี่ยมเล็ก เบาะเก้าอี้นี้มาพร้อมกับตัวรถคือมาจากญี่ปุ่นทั้งดุ ้นเลย มีสีเขียว(ที่เห็นในรูป) สีน้ำเงิน สีแดงเข้ม(รุ่นแรก) และสีลูกกวาด คือมี เบาะ 4 สี่สลับกัน มีสีเหลือง สีทอง สีแดง และสีเขียว วางสลับกันเป็นสีลูกกวาดเลย เบาะสีลูกกวาดที่ว่านี้มีวางอยู่ในรถของเถกิงทัวร์คร ับ (รวมทั้งผ้าม่านญี่ปุ่นด้วย) ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้การนั่งโดยสารในรถนิสสันยูดีนี้สบายอย่างสุด ๆครับ คือเก้าอี้รุ่นนี้เอนได้เยอะมาก นอกจากพนักจะเอนไปข้างหลังได้มากแล้ว เบาะนั่งยังเลื่อนไปข้างหน้าอีกด้วย คือแบบเหยียดกันสุดๆไปเลย ที่สำคัญคือไม่รู้ว่าไอ้ยุ่นมันมันออกแบบเก้าอี้ยังไ ง ขนาดว่าเราเอนนอนสุดๆแล้ว แต่ไม่ไปรบกวนผู้โดยสารที่นั่งอขู่ข้างหน้าหรือข้างห ลังเราเลย แปลกแต่จริงครับ ผมว่า เบาะศรีไทย ดำรงศิลป์ น่าไปดูงานที่ญี่ปุ่นเพิ่มเติมนะครับ สมัยก่อนนั่งรถทัวร์ไปไหนมาไหนทีก็น่าเบื่อนะครับ นั่งไกลๆ มองสองข้างทางก็แล้ว ไม่ถึงซะที ก็มีชาญทัวร์นี่แหละครับ หลังจากที่เอารถไปติดฟิลม์ซะดำปื้อแล้ว ก็เอาทีวีสีกับวีดีโอติดตั้งเข้าไปด้วย เพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกเพลิดเพลินไปกับหนัง อย่างไปขอนแก่นนี่ ดูวีดิโอเพลินๆยังไม่ถึง 3 เรื่องก็ถึงขอนแก่นแล้ว ก็ช่วยได้เยอะครับ ต้องชมว่าเจ้าของชาญทัวร์หัวแหลมดี คุณชาญณรงค์กับคุณ 957 รู้ไหมครับว่า สมัยก่อนรถทัวร์สายไกลๆที่ต้องใช้คนขับสองคนนั้น เขานอนกันที่ไหน สมัยก่อนเขาเรียกคนขับรถ(แบบผลัดกันขับ 2 คน) ว่า มือ 1 มือ 2 ครับ ไม่รู้ทันได้ยินคำนี้กันหรือเปล่า ทีนี้บริษัทรถทัวร์สมัยนั้นไม่ได้เตรียมที่หลับที่นอ นไว้ให้คนขับรถเหมือนสมัยนี้นะครับ เพราะทุกที่นั่งมันเป็นเงินเป็นทองไปหมดครับ ที่นี้ถ้ารถเที่ยวนั้นว่าง คนขับมือ 2 (คนขับผลัดที่สอง) ก็ไปหานั่งหลับเอาตามที่นั่งที่ว่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ท้ายรถ ถ้าที่นั่งเต็มทุกที่ ก็จะไม่มีที่นั่งครับ ทำไงครับ ก็จะเห็นว่า ห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถนั่นแหละคือวิมานของเรา..คน ขับมือ 2 กับเด็กท้ายรถจะลงไปนอนอยู่ที่นั่น เปิดแง้มบานประตูห้องเก็บของไว้พอให้มีอากาศถ่ายเทคร ับ เมื่อ 5 ปีที่แล้วผมนั่งรถสมบัติทวร์เบอร์ 18-46 จากเชียงใหม่มากรุงเทพ ก็ยังเห็นลูกพี่มือ 2 นอนอยู่ใต้ท้องรถเลย ตอนนี้รถมาตรฐาน 1 ข.(รถชั้นเดียว) หรือ รถมาตรฐาน 2 ของสมบัติทัวร์ ยังเป้นแบบนี้อยู่หรือเปล่า คนขับรถนอนที่ไหนครับ มีเรื่องเก่าๆ(เป็นตำนานไปแล้ว)เอามาเล่าได้อีกเยอะค รับ คุณชาญณรงค์ 108 กับคุณ 957 สนใจอยากฟังอีกก็บอกได้ครับ ถ้ไม่เบื่อซะก่อน. เมย์เดย์-ตำนานรถทัวร์ไทย |
#6
|
|||
|
|||
![]() นครชัยแอร์ ที่วิ่งสาย98 ยุกแรกๆเลย ก็มีรุ่นนี้ 98-5 เชิดชัยก็มี 98-12 คงเป็นรุ่นที่รับมาจากศรีอุบล กับทัวร์สหมิตร
ปัจจุบัน 98-5 ไม่มีป1 แต่เบอร์ไปอยู่ที่รถVIP ของนครชัย 98-12 เปลี่ยนมาเป็นcummin ปัจจุบันน่าจะเป็นISUZU |
#7
|
|||
|
|||
![]() อ้างถึง:
![]() คุณพี่ mayday มีอะไรหนุกๆ ก็เล่ามาได้เลยครับ ![]() |
#8
|
||||
|
||||
![]() อ้างถึง:
__________________
<marquee behavior=alternate scrollamount="2" scrolldelay="50" width="100%">http://www.rottourthai.com/image.php...2&type=profile<img src="http://www.rottourthai.com/image.php?type=sig pic&userid=3&dateline=1272455417" height="120"><img src="http://f.ptcdn.info/237/011/000/1382443482-o5261-o.gif" height="120"></marquee> |
#9
|
||||
|
||||
![]() มีน้องๆ 2-3 คนอ่านที่ผมเขียน แล้วตอบมา ผมชักเริ่มสนุกกับการเล่าเรื่องเก่าๆซะแล้ว
เรียกผมว่า "น้า" ก็ปวดใจแล้ว แต่พอรับได้ คนหลังสุดนี่เรียก "ลุง" ถือว่าให้เกียรติกันเกินไป คนรู้เรื่องเก่าๆไม่จำเป็นต้องแก่ขนาดนั้นก็ได้นะครั บ เอาอย่างนี้ แบบขำขำ ผมให้คุณทายอายุผมดีกว่า ไม่ยากหรอกครับ ใบ้ให้นิดนึงก็ได้ ตอนรถทัวร์เข้ามาเมืองไทยใหม่ๆ ตอนนั้นผมอายุประมาณ 10 ขวบครับ ถ้าคุณphong คุณGodzela มีรูปรถเก่าๆ เอาแบบเก่ากว่าปี 2524 ก็ลองโพสต์เข้ามานะครับ ผมดูแล้ว ถ้าจำได้ จะได้เล่าให้ฟัง... วันนี้ขอเล่าเรื่องเก่าๆต่อเลยนะครับ สมัยผมเด็กๆ ก่อนจะมีรถทัวร์นั้น อุตสาหกรรมต่อตัวถังรถโดยสารยังไม่ค่อยแพร่หลาย ผมยังนึกไม่ออกเลยว่า มีอู่ต่อตัวถังรถที่ไหนบ้าง ตอนนั้นอู่แถวบ้านโป่งยังไม่เกิดเลยกระมัง ดังนั้นผู้ประกอบการรถโดยสารในสมัยนั้นจึงต้องนำเข้า รถโดยสารทั้งคันจากต่างประเทศครับ ที่ผมจำได้แม่นยำ ตอนนั้น บขส.สั่งรถโดยสาร(รถร้อน)จากญี่ปุ่นครับ ยี่ห้อหรือครับ Hino ครับ ฮีโน่..สั่งมาใช้วิ่งไปต่างจังหวัดทั้งใกล้และไกล สมัยนั้นผมยังเด็กจึงไม่มีโอกาสได้นั่งรถไปเที่ยวไกล นัก พอถึงวันหยุดพ่อของผมพาผมไปนั่งรถไฟ(รถดีเซลราง)ที่ส ถานีวงเวียนใหญ่ไปมหาชัยครับ ขากลับถึงได้สัมผัสนั่งรถฮีโน่ของ บขส.สายมหาชัย-กรุงเทพ รถคันสั้นๆนะครับ เครื่องอยู่ท้าย หลังจากนั้นผมก็เห็นรถพวกนี้แหละครับ บขส.นำมาวิ่งเป็นรถเมล์สาย 25 วิ่งจากท่าช้างไปปากน้ำครับ แล้วก็เอามาวิ่งสาย 29 จากหัวลำโพงไปรังสิตครับ ถึงตอนนี้ยังงงๆว่า ทำไม บขส.จึงให้บริการในกรุงเทพด้วย หรือคงเห็นว่าเป็นรถวิ่งไปชานเมืองกระมัง รถรุ่นนี้ก็พ่นสีบรอนส์-ส้ม สีที่เป็นสัญลักษณ์ของ บขส.นี่แหละครับ สัญลักษณ์ของ บขส. อีกอย่างหนึ่งก็คือ แผ่นเพลท(plate)ครับ ใครเคยสังเกต ไหมว่า รถ บขส. จะมีเพลทเป็นเหมือนโล่ห์สีทองแขวนติดอยู่ด้านข้างรถท ั้งสองด้าน (ผมยังอยากได้มาเก็บไว้เป็นที่ระลึกซักอันหนึ่งเลย) เจ้าเพลทหรือโล่ห์นี้เป็นสิ่งเดียวที่รถร่วมไม่มี บขส.ของแท้ต้องมีโล่ห์ด้วย หลังๆมานี้ใช้พ่นสีเอา โล่ห์คงราคาหลายตังค์ รถเมล์ หรือรถโดยสาร hino นี้ ที่ผมประทับใจนอกจากความนุ่มนวล และรูปทรงที่classic แล้ว อีกอย่างหนึ่งคือ logo ครับ logo ด้านหน้ารถของ hino สมัยนั้นจะขึ้นรูปเป็นปีกนก (ขนาดประมาณ 2 ฟุต) มีตัวหนังสือภาษาอังกฤษอยู่ตรงกลางพื้นสีแดง ส่วนด้านหลังรถจะมีเพลทบอกยี่ห้อรถ (ขนาดประมาณ 1 ฟุตเศษ) มีตัวหนังสือภาษาอังกฤษเขียนว่า HINO OF JAPAN ครับ รถ hino รุ่นนี้ใช้งานอยู่นานพอสมควร ปลดประจำการไปตอนไหนจำปี พ.ศ.ไม่ได้ แต่จำได้ว่า รุ่นหลังๆ บขส.ก็สั่งรถ hino เข้ามาอีก รุ่นหลังนี้ตัวรถยาวกว่าเดิมครับ ที่สำคัญรุ่นนี้เริ่มมีรถติดแอร์เข้ามาแล้ว เห็นเอามาวิ่งเป็นรถ ป.2 สายพังงาหรือกระบี่อยู่พักนึ่ง รถแอร์รุ่นนี้ถือได้ว่าเป้นรถแอร์รุ่นแรกของ บขส.เลยนะครับ (รถพ่นสีบรอนส์-ส้ม ไม่ใช่สี่บรอนซ์-ฟ้าครับ) ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่สายเหนือ (ถ้าสมัยนี้คงหนีไม่พ้น ส. หรือสมบัติทัวร์) แต่สมัยนั้นต้อง ถาวรฟาร์มครับ ถาวรฟาร์มชื่อนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเจ้าของเขาทำฟาร์มอะไร มาก่อน มารู้จักและจำความได้เขาก็ทำกิจการรถโดยสารนี่แหละคร ับ ก่อนจะมีรถทัวร์(ฟ้า-ขาว) ถาวรฟาร์มก็วิ่งธรรมดามาก่อน สัมปทานก็อยู่ในเขตภาคเหนือนี่แหละ รถที่ถาวรฟาร์มใช้ก็หนีไม่พ้นรถ hino ครับ hino ของถาวรฟาร์มรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกับ hino ของ บขส. หลังๆมาก็มี hino ติดแอร์นำเข้าจากญี่ปุ่นมาวิ่งเหมือนกันครับ เป็นรถ ป.2 แล้วก็มาถึงยุคตื่นทอง คือยุคบุกเบิกรถทัวร์ครับ รุ่นแรกนี้ บขส.เปิดตัวรถทัวร์ บขส.(ป.1) ด้วยรถเบนซ์ 0302 ตัวถังอลูมิเนียมครับ ในขณะที่เอกชนอย่างถาวรฟาร์ม(เข้าร่วมเป็นรถร่วม บขส.ตั้งแต่แรก)ใช้รถ hino นำเข้าทั้งคันจากญี่ปุ่น บริษัท 25 แอร์อุบล-กรุงเทพ (เป็นบริษัรถที่เข้าเป็นร่วม บขส.ตั้งแต่แรกเช่นกัน)นำเข้ารถนิสสันยูดี รุ่น RA60 นี่แหละครับมาวิ่งสายอุบล มีทั้งรถยูดีและรถเบนซ์ 0302 นะครับ สมัยนั้นค่ารถทัวร์กรุงเทพ-อุบล อ่านแล้วอย่าตกใจนะ 100 บาท ครับ(อ่านว่า -หนึ่ง-ร้อย-บาท ครับ) รถร่วมบขส.สายอื่นๆก็มีนะครับ มีสาย 8 กรุงเทพ -มโนรมย์-ชัยนาทก็มีแล้วใช้รถเบนซ์ 0302 เครื่องหน้า สาย14 กรุงเทพ-หล่มสักก็มีแล้วครับ ใช้รถ hino ชั้นครึ่งนำเข้าจากญี่ปุ่น สาย22 และสาย23 ก็มีแล้วโดยเจ้าพ่อ 407 พัฒนา..สาย26 รถแสงประทีปก็มีแล้ว ส่วนสายใต้เท่าที่ผมนึกออกตอนนั้นมีแต่ บขส.วิ่งอยู่เจ้าเดียวครับ ตอนนั้น บขส. เปิดตัวด้วยเบนซ์ 0302 ไม่นาน ก็เอารถ isuzu มาเสริมทัพครับ ชื่อรุ่นผมจำไม่ได้ ต่อที่ไหนก็ไม่รู้ จำได้แต่เป็นรถใช้แหนบ เครื่องท้ายเสียงดังไปนิดนึง สมัยก่อนจะขึ้นรถทัวร์ที จะต้องไปที่ tommy ครับ tommy คือสถานีขนส่งรถโดยสารปรับอากาศแห่งแรกของเมืองไทย อยู่ถนนศรีอยุธยาตรงข้ามกับสันติราษฎร์ครับ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเรียกว่า tommy รถร่วม บขส.จะต้องมาออกที่นี่ครับ ส่วนรถเอกชนก็ออกจากบริษัทของใครของมัน ที่นิยมกันสมัยนั้นจะออกจากแถวซอยรางน้ำ โรงแรมอินทรา ราชประสงค์ เพลินจิต สามเหลี่ยมดินแดง อะไรประมาณนี้ ยุคตื่นทอง บขส.ทำรถทัวร์สู้เอกชนไม่ได้ครับ (และสู้ไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้) คนส่วนใหญ่ไปใช้บริการรถเอกชนกันหมด ด้วยสาเหตุอะไรที่ทำให้ บขส.ผู้บุกเบิกทำได้ไม่ดีเท่าเอกชน ผมจะเล่าให้ฟังทีหลังครับ เล่ามาถึงตอนนี้เริ่มเหนื่อย ใช้สมองนึกเรื่องเก่าๆนานๆความดันเริ่มขึ้น น้าเมย์เดย์ขอตัวไปพักผ่อนก่อนหละ...ห้ามเรียกลุงอีก นะ...เดี๋ยวมีงอน เมย์เดย์-ตำนานรถทัวร์ไทย |
![]() |
คำสั่งเพิ่มเติม | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|