|
คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | กระทู้ใหม่วันนี้ | ค้นหา |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม | ค้นหาในหัวข้อนี้ | เรียบเรียงคำตอบ |
|
#1
|
|||
|
|||
![]() อิอิ ถ้าเป็นผมหรอ จากประสบการณ์ของตัวเอง และคนอื่นๆ
เบาะเดี่ยว 32 ที่นั่ง ----> ราคา ป.1 ---> กว้างจริง ---> เอนน้อยเท่า ป.1 40ที่นั่ง -----> เบาะแข็งๆ ปวดหลัง ต้องขยับตัวตลอด หลับๆตื่นๆ---> ไม่เอาดีกว่า เบาะเดี่ยว 24 ที่นั่ง ----> ราคา ป.1 ---> กว้างจริง ---> เอนเยอะ -----> เบาะแข็ง ปวดหลัง ต้องขยับตัวตลอด ตื่นไม่บ่อย---> เดี๋ยวเดินมาดูอีกที เบาะเดี่ยว 24 ที่นั่ง ----> ราคา ป.1 ---> กว้างจริง ---> เอนโคตะระเยอะ -----> เบาะนุ่ม นวดสบาย หลับสบาย---> เอามันนี่ล่ะ๊ว๊าา เบาะคู่ 32 ที่นั่ง ------> ราคา ป.1----> กว้างจริง ---> เอนเยอะ -----> เบาะแข็ง ปวดหลัง ต้องขยับตัวตลอด ตื่นไม่บ่อย---> เดี๋ยวเดินมาดูอีกที เบาะคู่ 32 ที่นั่ง ------> ราคา ป.1----> กว้างจริง ---> เอนโคตะระเยอะ -----> เบาะนุ่ม หลับยาว ---> เอามันนี่ล่ะ จะเห็นว่า ผู้บริการ เมื่อโดนคู่แข่งมาสร้างความเหมือน เค้าก็จะพยายามหากลยุทธ์ เพื่อสร้างความแตกต่างให้หนีคู่แข่งเสมอ บนพื้นฐานเดิมเดียวกัน ... ![]() |
#2
|
||||
|
||||
![]() รถ ม.1ข จัดเบาะนั่งได้ไม่เกิน 45 ที่นั่ง ถ้า ทางบริษัทเดินรถ จะจัดที่นั่งให้ต่ำกว่าก็คงทำได้ อาจจะ30,32,36,38,40,44,45 ที่นั่งก็สามารถทำได้ครับ แต่ราคาจะปรับขึ้นเท่ากับรถ ม.1พ ไม่ได้ก็เท่านั้นเอง ราคาเค้าจะกำหนดไว้ตามมาตรฐานของรถที่ขอจดทะเบียนเอา ไว้ นี่เท่ากับว่า ทางบริษัทเดินรถที่ลดจำนวนเบาะลงมาก็เท่ากับว่าคืนกำ ไรให้ผู้โดยสารและแข่งขันกันในเชิงการตลาดนะครับ
เช่น รุ่งประเสริฐทัวร์ จัดวางเบาะนั่งไว้ที่ 30 ที่นั่ง แต่เก็บค่าโดยสารไว้เท่ากับรถป.1 เพราะจดทะเบียนรถไว้ที่มาตรฐาน ป.1 เอาไว้ สมบัติทัวร์ บางคันเบาะนั่ง ป.1จะมีที่นั่งแค่ 36 - 38 ที่นั่ง ราคาก็เก็บเท่าเดิมคือ มาตรฐาน ป.1 รถชั้นครึ่งอย่าง วินทัวร์จัดเบาะนั่งถึง 44-45 ที่นั่งเก็บค่าโดยสารราคาปกติคือตามมาตรฐานรถป.1 แต่จำนวนเบาะมีถึง 44 - 45 ที่นั่ง แต่ผู้โดยสารก็ยังนิยมใช้บริการอยู่ ตอนนี้เท่ากับเป็นการแข่งขันในเชิงการตลาดแล้วครับ ใครดีใครได้(ได้ใจผู้โดยสาร) แต่ที่แน่ๆก็คือ 1.เรื่องการบริการ 2.สภาพรถ 3.ความสะดวกสบาย :emo_toon07: |
#3
|
|||
|
|||
![]() อ่านความเห็น จขกท แล้วงงนิดหน่อย ไม่มีที่ไหนในโลกหรอกครับที่จะมีบทลงโทษ อะไรก็ตามที่บริการเหนือมาตรฐาน ไม่ว่าจะมองในมุมมองไหนก็ไม่สามารถตำหนิการบริการที่ เหนือมาตรฐานได้ แม้จะมองในแง่ของผู้ประกอบการก็ตาม
ผู้ประกอบการเองจะต้องทำใจ เพราะนี้คือโลกของการค้าเสรี ที่จะต้องมีการแข่งขัน บางบริษัทลงทุนใช้รถดีๆเบาะใหญ่ๆ แต่บางบริษัททุ่มทุนในการพัฒนาระบบบริการและการจัดกา รโดยยังเก็บค่าโดยสารตามมาตรฐาน บริษัทที่ยังไม่มีจุดแข็งเลยสักด้านก็ต้องครุ่นคิดไป หาวิธีการที่จะสามารถแข่งขันในตลาดได้ การที่ออกมาตำหนิคู่แข่งที่ลงทุนหรือพัฒนาไปมากกว่าเ ป็นวิธีการของ Loser สำหรับความเห็นเรื่องนาย ก ที่เจอรถแบบนั้นคงซวยมากจริงๆ เพราะคงมีรถหรือบริการที่เป็นแบบนั้นน้อย แต่ส่วนใหญ่เขาก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกันทั้งนั้น ในปัจจุบัน ผมยังไม่เห็นมีบริษัทไหนที่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน บางบริษัทใช้รถดีเบาะใหญ่แบบรถ 24 ที่นั่ง แถมนวดไฟฟ้าด้วยเก็บค่าโดยสารเท่ารถ 40 ที่นั่ง แต่การบริการก็ยังสู้หลายๆเจ้าไม่ได้ บางบริษัทใช้รถดีเบาะดีแบบรถ 32 ที่นั่ง ช่องว่างระหว่างเบาะมาก เก็บค่าโดยสารเท่ารถ 40 ที่นั่ง การบริการอยู่ในระดับปานกลาง บางบริษัทบริการดีมีมาตรฐานสูงและเก็บค่าโดยสารตามมา ตรฐานรถ(เบาะ) แต่ทั้งหมดก็สามารถแข่งขันกันได้อย่างสูสี เพราะเขามีผู้โดยสารเฉพาะกลุ่มของเขาที่สนใจและติดใจ ในจุดเด่นที่เขามี ผู้ประกอบการ 99% รวยกว่าเราๆเหล่าผู้โดยสารครับ ไม่ต้องไปห่วงเขามาก การที่เขากระจายความรวยมาให้เราผ่านการบริการที่เหนื อมาตรฐานนั้น ถือซะว่าเขาได้ทำบุญครับ เมื่อเขาทำดีก็ต้องอนุโมทนาครับ |
#4
|
||||
|
||||
![]() เห็นด้วยกับทุกความเห็นครับ
เถ้าแก่เขาจัดเบาะอย่างนั้น เป็นการตัดสินใจของเถ้าแก่เอง ถ้าคิดว่ามันดี เขาก็ทำ ถ้าเจ๊ง เขานั่นแหละเจ๊ง ส่วนคนที่ได้รับประโยชน์ก็คือผู้โดยสารเอง เรามีแต่ได้ต่างหาก หากจะมองว่าเป็นการทำที่ผิดแผก แปลกไปจากคนอื่น มองว่าเป็นช่องโหว่ มันก็ถูกครับ แต่ถ้ามาย้อนมองดู การทำอย่างนี้ ไม่ได้ทำให้การเดินทางของผู้โดยสารมีความไม่สะดวกเลย มิหนำซ้ำ กลับทำให้คนนิยมนั่งรถทัวร์มากขึ้น การแข่งขันรถทัวร์ในสายนั้นๆ มีการแข่งขันมากขึ้น มันไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่างบนโลกใบนี้ค รับ เพียงแต่เราเฟ้นหาในสิ่งที่เราคิดว่า "ดีที่สุด" ก็พอแล้วครับ |
![]() |
|
|